กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ เข้าสักการะสิ่งศักดิ์ และถวายเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายอรรถพล จัดแถลงข่าวการเข้ารับตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ โดยกล่าวว่า ตนได้หารือกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งได้กำชับให้มาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยให้ทำทันทีและรวดเร็ว นอกจากนี้ได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส.ถึงแนวนโยบายการทำงานในภาพรวม มีหลายเรื่องที่ต้องทำพร้อมๆ กัน เพราะทุกเรื่องต้องเร่งแก้ไขทั้งหมด 1.เรื่องผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม แต่ไม่จำเป็นว่าทุกคำสั่งต้องย้ายหมด จะวิเคราะห์เป็นรายบุคคล ที่ไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมจริงๆ โดยมีคณะกรรมการของกรมอุทยานฯ ซึ่งมีตนเป็นประธาน และมีรองอธิบดีทั้ง 3 คน เป็นกรรมการ ช่วยกันดำเนินการเรื่องนี้ โดยจะรับฟังจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ และช่วยเหลือในลักษณะโยกย้ายกลับที่เดิม หรือพื้นที่ใหม่ที่เหมาะสม คาดว่า ช่วงสัปดาห์หน้าจะมีการปรับย้ายเลยและจะเปิดเผยต่อสาธารณชนให้รับรู้
2. เรื่องความโปร่งใสในการทำงาน ทุกกิจกรรมของงบประมาณต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เงินรายได้อุทยานฯ หรือกระบวนการใดๆ ที่ล่อแหลมส่อทุจริต ต้องปิดช่องว่างให้หมด ตนจะคุมทุกอุทยาน โดยเฉพาะอุทยานเกรดเอ ที่มีรายได้เยอะ เพื่อจัดสรรเงินไม่ให้มีช่องโหว่ในการทุจริตได้ 3.การดูแลพื้นที่อุทยานฯ ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจที่ต้องดูแลงานคุ้มครอง ปราบปราม จะต้องยกระดับความเข้มข้มในการดูแลพื้นที่ป่า และร่วมมือกับกรมป่าไม้ และกรมอื่นๆ เพื่อยกระดับความเข้มแข็ง ตนเข้าใจงานด้านการปราบปรามเป็นอย่างดี เพราะตนทำงานด้านนี้มาตั้งแต่ต้น เจ้าหน้าที่น่าเห็นใจ ทำงานด้วยอุดมการณ์ เพราะมีความเสี่ยงหลายด้าน ทั้งอิทธิพลท้องถิ่น เสี่ยงอันตราย ซึ่งเราจะยกระดับชุดปฏิบัติการให้เข้มแข็ง 4.การจัดสรรที่ดินเขตป่าที่เสื่อมสภาพ ปัญหาที่ดินทับซ้อน รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ป่าด้วย
5.เรื่องการป้องกันไฟป่าและหมอกควันในภาคเหนือ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ทุกอย่างต้องเจาะไปถึงเนื้องานจริงๆ หากงบประมาณไม่เพียงพอ ก็ขอสนับสนุนเครือข่ายประชาชน 6.ปรับปรุงโครงสร้างการทำงาน บริหารเชิงพื้นที่โดยใช้ระบบ Single command ปรับลดหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนไม่ให้ทำงานหลายตำแหน่ง 7.การสร้างขวัญกำลังให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ ประชาชนไม่ไว้วางใจ ดังนั้นเราจะกอบกู้ภาพลักษณ์ตรงนี้ขึ้นมาใหม่ ปรับค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าให้เหมาะสมกับการทำงานของพวกเขา ซึ่งจะมีการพิจารณาอย่างเร่งด่วน ในการสร้างขวัญกำลังใจ เราจะทำในสิ่งที่ดี อะไรที่ไม่ดีก็อย่าทำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รู้สึกอยากทำงาน ไม่ให้แบ่งแยก และหาคนดีมีความสามารถทำงานให้ตรงจุด 8.เรื่องช้างป่า โดยจะสนับสนุนกองทุนช้างป่าฯ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า เพราะที่ผ่านมาการช่วยเหลือค่อนข้างล่าช้า จากนี้เราจะช่วยเหลืออย่างรวดเร็วมากขึ้น
ส่วนที่ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ผู้ร้องต่อ ปปช.เกี่ยวกับการเรียกรับเงินแลกกับการแต่งตั้งโยกย้ายซึ่งระบุว่าขณะนี้ยังมีการข่มขู่หัวหน้าหน่วยงานต่างๆอยู่นั้น ได้พูดคุยกับนายชัยวัฒน์แล้ว ยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายแบบไม่เป็นธรรมจะไม่เกิดขึ้น นายชัยวัฒน์ได้แจ้งว่า พร้อมจะร่วมทำงาน สำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตและซื้อขายตำแหน่งเป็นเรื่องทางคดีที่ตำรวจและปปช.ดำเนินการอยู่ เช่นเดียวกับที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง“เรื่องเร่งด่วนแรก คือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม แต่ไม่ใช่ทุกคำสั่งต้องย้ายหมด ทางคณะทำงานที่กรมอุทยานฯ ตั้งขึ้นมาจะพิจารณารายบุคคลที่ไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมจริง ๆ ซึ่งมีบัญชีรายชื่อแล้ว จะพยายามพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน1เดือน”นายอรรถพล กล่าว