ทบ.เดินหน้าพัฒนาพลทหาร ด้วยระบบสร้างงานหลังปลด กำชับกองกำลังชายแดนดูแลพื้นที่ให้สงบ ประชาชนปลอดภัย

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมติดตามการปฏิบัติงานประจำวัน ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวถึงนโยบายการสร้างอาชีพให้กับทหารกองประจำการหลังปลดประจำการ โดยหาตำแหน่งงาน

จากภาคเอกชน ล่าสุดกองทัพบกได้มีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับ

บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เมื่อ ๒๔ ก.พ. ๖๖ ให้ทหารกองประจำการและครอบครัวได้สมัครเป็นพนักงานของบริษัทในเครือ กว่า ๑๓,๐๐๐ อัตราทั่วประเทศ ซึ่งการจัดหางานให้ทหารกองประจำการดังกล่าว ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตให้กับทหาร

กองประจำการให้มีทางเลือกในเส้นทางอาชีพหลังปลดประจำการ ในขณะเดียวกันภาคเอกชนจะได้พนักงานที่ผ่านการเสริมสร้างระเบียบวินัย มีความรู้ เหมาะกับตำแหน่งงาน เข้าสู่ตลาดแรงงาน ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันในการสร้างอนาคตให้กับผู้ที่เสียสละในการเข้ามาเป็นทหาร โดยผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้ทุกหน่วยสื่อสารสร้างการรับรู้ในการจ้างงานดังกล่าวผ่านผู้บังคับหน่วยทหารทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับให้หน่วยได้วางแผนส่งเสริมทักษะความรู้ด้านอาชีพที่ทหารกองประจำการมีความสนใจ และให้การฝึกอบรมในระหว่างประจำการเพื่อให้พร้อมเข้าสู่ระบบจ้างงานได้ทันทีก่อนปลดประจำการ ทั้งนี้กองทัพบกเตรียมพิจารณาขยายการรับสมัครงานกับภาคเอกชนไปยังครอบครัวข้าราชการทหารของกองทัพบกในอนาคตด้วย

ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวถึงการปฏิบัติงานของกองทัพบกในภาพรวม

ที่ประสบความสำเร็จตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเทของกำลังพล แต่อาจมีกำลังพลบางคนที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม ซึ่งกองทัพบกได้ดำเนินการอย่างเข้มงวดตามระเบียบทางราชการ พร้อมกำชับเรื่องระเบียบวินัย และดำรงตนเป็นพลเมืองดี ผ่านการกำกับดูแลของผู้บังคับหน่วยทุกระดับ โดยเฉพาะการสื่อสารสร้างความเข้าใจ

ในกฎระเบียบต่างๆ ที่สำคัญให้ทหารทุกคนน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ ที่ว่า “แก้ไขในสิ่งผิด” มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติงาน

การประชุมในวันนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบกในทุกพื้นที่ เข้มงวดในการปฏิบัติภารกิจ รักษาอธิปไตย สกัดกั้น

สิ่งผิดผิดกฎหมาย สร้างความปลอดภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะแนวชายแดนที่มีสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้าน ต้องดูแลประชาชนให้มีความปลอดภัย และลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้น้อยที่สุด ควบคู่กับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามมาตรฐานสากลต่อผู้หนีภัยความไม่สงบ และการอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับ รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายด้วย

..............................................