ผลกระทบจากปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นกระจายใน 21 อำเภอ จากทั้งหมด 25 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่หลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้จังหวัดเชียงใหม่ยังคงครองแชมป์ ค่า PM 2.5 มากที่สุดในประเทศ คือที่อำเภอเชียงดาว วัดได้ 325 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สอดคล้องกับจุดความร้อนที่พบในอำเภอเชียงดาวในวันนี้ซึ่งมีมากถึง 52 จุด จาก 308 จุดทั่วเชียงใหม่ และจากจุดความร้อนจำนวนมากนี้ ทำให้ตัวเมืองเชียงใหม่ ต้องจมอยู่ใต้ฝุ่นควันอย่างต่อเนื่อง ค่า PM2.5 ในแต่ละวันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงบ่ายวันนี้(2เม.ย.66) ฝุ่น PM2.5 ในตัวเมืองเชียงใหม่ 3 จุด ที่ตำบลสุเทพ ช้างเผือก และศรีภูมิ พุ่งสูงถึง 194 - 204 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรไปแล้ว ราว 4 เท่าของค่ามาตรฐาน ด้านภาพรวม 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งมีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศกรมควบคุมมลพิษอยู่ 32 จุด มีเพียง 4 จุดที่ PM2.5 ไม่เกินค่ามาตรฐานคือ จังหวัดอุทัยธานี เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ มี 8 จุดที่เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 56 – 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนอีก 20 จุด อยู่ในระดับสีแดง รองจากอำเภอเชียงดาวที่ PM2.5 มากที่สุดในประเทศ คือ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย วัดได้ 308 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐานในระดับวิกฤตต่อเนื่องมานานกว่า 2 สัปดาห์ ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ มีรายงานว่า พื้นที่ภาคเหนือยังต้องอยู่ใต้สถานการณ์วิกฤตฝุ่นควันต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ต้องจับตารอดูว่าในช่วงวันที่ 8 - 9 เมษายน จะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ แม้จะกำลังไม่แรงเท่าพายุฤดูร้อนในช่วงเดือนที่ผ่านมา จะเข้ามาช่วยให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง พายุฤดูร้อน และพายุลูกเห็บได้ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ก็อาจจะช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นควันของภาคเหนือคลี่คลายไปได้ระดับหนึ่ง ข้อมูลภาพข่าว : ศข.เชียงใหม่