วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567
0 543 : | 794 view
@admin">
โดยมักจะวางโทรศัพท์เอาไว้ใต้หมอนหรือข้างเตียงไม่ห่างตัวเอง
“อาการติดสมาร์ทโฟน (Mobile phone addiction)” คืออะไร?
สมาร์ทโฟนซินโดรม หรือที่คุ้นเคยในอีกชื่อว่า Mobile phone addiction โดยกลุ่มอาการนี้เป็นความผิดปกติในการใช้อุปกรณ์มือถือมากเกินไปจนเกิดการอักเสบของนิ้วมือและข้อมือ ปวดคอ บ่า ไหล่ โดยอาการเหล่านี้เกิดจากการทำพฤติกรรมซ้ำเดิมจนเกิดความเครียดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายตามมา และมีรายงานทางการแพทย์มากขึ้นว่า ผู้ใช้สมาร์ทโฟนมักมีอาการเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ
3 อันตรายที่มากับอาการติดสมาร์ทโฟน
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ที่มีสาเหตุมาจากการก้มเล่นมือถือเป็นเวลานานๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการพัฒนาไปเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ (Text Neck Syndrome) ในอนาคตต่อไปได้ ซึ่งอาการปวดจะรุนแรงและปวดเพิ่มขึ้นเมื่อใช้อุปกรณ์มือถือนานขึ้น ถ้าหากคุณมีอาการเช่นนี้ก็ควรจะไปปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโรคและหาทางรักษาต่อไป นอกจากนี้การใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานยังส่งผลเสียต่อท่าทางการเดิน และการทำงานของระบบทางเดินหายใจได้
โรคร้ายที่มากับสมาร์โฟนต่อมาที่พบได้บ่อยคือโรคทางดวงตา จากพฤติกรรมในการใช้สายตาที่เปลี่ยนแปลงไปจากการใช้สมาร์ทโฟน และการละเลยดูแลดวงตาต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนเกิดเป็น Computer Vision Syndrome (CVS) เป็นกลุ่มของอาการทางตาและการมองเห็นที่มีผลมาจากการใช้จอทีแสงจ้าติดต่อกันเป็นเวลาน เช่น อาการล้าตา ตาแห้ง แสบตา แพ้แสงสู้แสงไม่ได้ ปวดศีรษะ และสาเหตุหลักๆ ของอาการดังกล่าว คือ แสงสีฟ้า (Blue Light) ซึ่งเป็นคลื่นแสงที่มีพลังงานสูงจากอุปกรณ์มือถือ แท็บเล็ต gadgets ต่างๆ ที่ใช้กันทุกวัน โดยแสงสีฟ้านั้นมีพลังงานสูงจึงสามารถเดินทางผ่านกระจกตา เลนส์ตาจนไปถึงจอตาด้านใน ส่งผลกับสุขภาพของดวงตาจนเกิดเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม (Agerelated macular degeneration หรือ AMD) ซึ่งเป็นโรคที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณจุดกลางรับภาพของจอประสาทตาซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้
มีงานศึกษาทางการแพทย์พบว่า การใช้อุปกรณ์มือถือมากเกินไปเปลี่ยนแปลงสารเคมีในสมองและ มีอาการเจ็บป่วยทางจิตใจ (mental disorder) เพราะสารสื่อประสาทหลักที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก คือ กรดแกมมาอะมิโนบิวทีริก (Gamma-Aminobutyric Acid - GABA) และสมองเนื้อสีเทา ซึ่ง GABA นั้นเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยส่งข้อความสื่อสารระหว่างสมองและระบบประสาท ส่วนสมองเนื้อสีเทานั้น จะควบคุมการเคลื่อนไหว ความทรงจำ และอารมณ์ การใช้สมาร์ทโฟนเป็นประจำ สามารถเพิ่มหรือลดการผลิต GABA จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของสมองในเรื่องความเครียด และความวิตกกังวล และมีจากข้อมูลของนักวิจัยนั้นยังค้นพบอีกว่าการใช้สมาร์ทโฟนเป็นประจำนั้นส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสมองเนื้อสีเทาทำให้รูปร่างทางกายภาพและขนาดของสมองคล้ายกับผู้ใช้ยาเสพติดซึ่งอาการเหล่านี้ส่งผลต่อการเรียนรู้และสภาพจิตใจตามมาได้
สิ่งสำคัญที่น่าสนใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือ ภาวะซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย รวมทั้งและระบบการเรียนรู้ที่แย่ลงในกลุ่มวัยรุ่นมีความสัมพันธ์กับอาการติดสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้การวางสมาร์ทโฟนไว้ใกล้ตัว แสดงถึงอาการห่วงพะวง หรือคิดถึงโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนตลอดเวลาส่งผลต่ออาการสมาธิสั้น ลดการโฟกัสเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ผู้มีอาการติดสมาร์ทโฟนจึงมักจะเกิดอาการ Creative Block และเกิดความเหงาจากความไม่มั่นคงในจิตใจจากการไม่มีสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
สมาร์ทโฟนนั้นมีประโยชน์มหาศาล แต่ในขณะเดียวกันการใช้อุปกรณ์นี้อย่างต่อเนื่อง ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตทางสังคมของคุณอย่างมาก ดังนั้นอย่าปล่อยให้การใช้สมาร์ทโฟนทำร้ายสุขภาพของคุณและคนที่คุณรัก อาการติดสมาร์ทโฟนนั้นป้องกันได้ด้วยการใช้สมาร์ทโฟนอย่างถูกวิธี ไม่ควรก้มมองจอเป็นระยะเวลานานมากเกินไป ถ้าหากคุณและคนใกล้ตัวนั้นเข้าข่ายอาการติดสมาร์ทโฟน อาจต้องค่อยๆ ลดเวลาในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ลงเพื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี
ข่าว
27 ก.ค. 2567 14:30 43 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 14:22 82 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 14:20 40 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 14:13 51 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 13:57 83 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 11:18 118 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 11:17 83 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 11:14 68 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 10:44 86 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 10:40 88 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 10:11 107 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 10:04 100 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 09:46 110 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 09:34 102 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 09:27 108 views
ข่าว
26 ก.ค. 2567 17:30 226 views