ยานนิก ซินเนอร์ นักหวดอิตาเลียน มือ 1 ของโลก เอาชนะ เทย์เลอร์ ฟริตซ์ นักเทนนิสเจ้าถิ่นมือ 12 ของโลก 6-3, 6-4, 7-5 ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ชายเดี่ยว เทนนิสแกรนด์สแลม “ยูเอส โอเพ่น” ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 กันยายน

ซินเนอร์ที่เพิ่งรอดจากคดีใช้สารต้องห้าม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คว้าแชมป์แกรนด์สแลมที่ 2 ในชีวิต และเป็นแชมป์แกรนด์สแลมที่ 2 ในปีนี้ ต่อจากแชมป์ “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ที่ได้มาเมื่อเดือนมกราคม รวมทั้งเป็นนักเทนนิสอิตาลีคนแรกที่ได้แชมป์ประเภทเดี่ยวในยูเอส โอเพ่น

นักหวดมือ 1 ของโลกกล่าวทั้งน้ำตาว่า การคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น มีความหมายกับตัวเองอย่างมาก เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่าย ป้าของเขาสุขภาพไม่ค่อยดี และไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน การได้ร่วมแบ่งปันเวลาดีๆ แบบนี้กับป้าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะป้าเป็นคนที่สำคัญในชีวิตของเขาจริงๆ เพราะเมื่อพ่อแม่ต้องไปทำงานก็ต้องอยู่กับป้า ถ้าสามารถขอพรได้ก็อยากจะให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง แต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้จนถึงตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีนัก แต่ก็ต้องยอมรับมัน เพราะไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ

ซินเนอร์กล่าวถึงเรื่องการรอดจากการลงโทษที่ตรวจพบการใช้สารต้องห้ามเมื่อเดือนมีนาคม และโดนวิจารณ์อย่างหนัก ว่า ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร แต่มันก็มีผลอย่างมากกับสภาพจิตใจของตัวเอง การได้แชมป์รายการนี้เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตัวเองและทีม เพราะทุกคนทำงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อให้มีจิตใจที่พร้อมแข่งขันในยูเอส โอเพ่น 

ด้านฟริตซ์ที่พลาดการเป็นนักหวดอเมริกันคนแรกในรอบ 21 ปี ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลม กล่าวว่า การเป็นคนอเมริกันและได้เล่นในยูเอส โอเพ่น ทำให้ได้รับความรักตลอดทั้งสัปดาห์ รู้ดีว่าแฟนเทนนิสรอคอยแชมป์ที่เป็นคนอเมริกันมานาน ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ แต่จะทำงานอย่างหนัก และหวังว่าจะประสบความสำเร็จในครั้งต่อไป