×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568

?>

“แบงก์ชาติ” ยันไทยไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยตามเฟด ย้ำธนาคารกลางต้องมีอิสระในการดำเนินงาน

 20 ก.ย. 2567 15:44 | 929 view

 @pracha

Facebook X Share

“แบงก์ชาติ” ยันไทยไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยตามเฟด ขึง 3 เกณฑ์พิจารณาเข้ม ชี้ภาพเศรษฐกิจ-เงินเฟ้อยังไม่เปลี่ยน ระบุต้องชั่งน้ำหนักให้ดี พร้อมพิจารณาว่าลดดอกเบี้ยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงแค่ไหน แนะใช้มาตรการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ย้ำธนาคารกลางต้องมีอิสระในการดำเนินงาน

20 ก.ย. 2567 – นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% ต่อปี ว่า ยอมรับว่าปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบกับตลาดการเงินและค่าเงินเป็นหลัก สะท้อนจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจากเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าลง แต่ในมิติผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ได้ร้ายแรงหรือมากมายขนาดนั้น

ส่วนในแง่นโยบายการเงินของประเทศไทย ธปท. ยังคงเน้นพิจารณาจาก 3 ปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจ ว่ามีการเติบโตเข้าสู่ศักยภาพหรือไม่, อัตราเงินเฟ้อ ว่าจะเข้ากรอบเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งมั่นใจว่าจะค่อย ๆ เข้าสู่กรอบเป้าหมาย แม้ว่าจะช้ากว่าที่ประเมินไว้ และเสถียรภาพด้านการเงิน รวมไปถึงจะต้องคำนึงถึงภาพรวมการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางรายใหญ่ของโลกควบคู่กันไปด้วย เพราะการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางในประเทศขนาดใหญ่ ย่อมมีผลกระทบในภาพรวมอย่างมีนัยต่อ 3 ปัจจัยดังกล่าว

“ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรที่ทำให้ภาพการประเมินเศรษฐกิจและภาพรวมอัตราเงินเฟ้อแตกต่างไปจากที่เคยมองเอาไว้ จะมีเพียงเรื่องเสถียรภาพด้านการเงินที่ ธปท. แสดงความเป็นห่วง โดยยืนยันว่า ธปท. ไม่ได้ฟิกซ์ หรือยึดติดกับอะไรพวกนี้ ตอนนี้หลัก ๆ ธปท. เน้น outlook dependent หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงจากที่เรามอง และเหมาะที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ย เราก็พร้อมที่จะปรับ ซึ่งขอย้ำว่า การที่เรา outlook dependent ผมคิดว่าเป็นกรอบความคิดที่เหมาะสมและถูกต้องแล้ว เพราะที่อื่นเน้น data dependent แต่มันสร้าง noise ต่อตลาดเยอะ ถ้าเราโฟกัสข้อมูลล่าสุดมากเกินไป เป็นอะไรที่มีความผันผวน ไม่แน่นอนอยู่แล้ว เราไม่อยากให้การคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายการเงินไปซ้ำเติมเรื่องความผันผวน” นายเศรษฐพุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงว่าการลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงแค่ไหน ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างภาระหนี้เดิม กับสินเชื่อใหม่ที่จะเกิดขึ้น โดยต้องชี้แจงว่าภาระหนี้เป็นอะไรที่ ธปท. ก็เป็นห่วง เพราะมีสัดส่วนครัวเรือนไม่น้อยที่มีปัญหาอยู่ แต่ต้องพิจารณาว่าการลดดอกเบี้ย จะส่งผลไปถึงภาระหนี้ได้ไม่เต็มที่นัก เพราะสัดส่วนไม่น้อยที่เป็นหนี้อัตราดอกเบี้ยคงที่ (ฟิกซ์เรต) ซึ่งเป็นภาระหนี้ที่ต้องจ่ายเป็นรายเดือน ดังนั้นแม้จะลดดอกเบี้ยแต่ภาระหนี้ส่วนหนี้ก็ไม่ได้ลด ดังนั้นคงพูดได้ยากว่า เมื่อลดอัตราดอกเบี้ยลงทันทีแล้วภาระหนี้ของประชาชนจะลดตามไปด้วย ตรงนี้คงไม่ใช่

นายเศรษฐพุฒิ กล่าวอีกว่า นโยบายอัตราดอกเบี้ย เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญที่ ธปท. มี แต่ ธปท. ใช้เครื่องมือทางการเงินหลายอย่างในการทำงาน เป็นนโยบายแบบผสมผสาน โดยยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่ดำเนินการควบคู่ไปด้วย เช่น การลดภาระหนี้ของคน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ดังนั้นการลดดอกเบี้ยอาจจะไม่ได้ผลมากเท่ากับการปรับโครงสร้างหนี้

“นโยบายเรื่องอัตราดอกเบี้ยกระทบหลายด้าน แต่สำหรับปัญหาบางอย่าง ใช้มาตรการอะไรที่ตรงจุด ตรงนั้นน่าจะเหมาะสมกว่า โดยยอมรับว่าที่ผ่านมามีแรงกดดันมาที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ตลอดเวลา ไม่ว่าเฟดจะลดหรือไม่ลดดอกเบี้ย แต่ต้องเรียนว่า การที่เฟดลดอัตราดอกเบี้ยไม่ว่าเราก็จะต้องปรับลดด้วย ซึ่งเรื่องเฟดลดดอกเบี้ยก็กระทบปัจจัยอย่างอย่าง กระทบภาพรวม และกระทบตัวแปรที่เราต้องคำนึงถึง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการพิจารณานโยบายดอกเบี้ย ซึ่งหากเราเป็นประเทศที่ฟิกซ์ค่าเงิน เช่น ฮ่องกง ตะวันออกกลาง เป็นต้น พวกนี้โดยปริยายที่จะต้องลดดอกเบี้ย แต่ของไทยไม่ได้เป็นแบบนั้น” ผู้ว่าการ ธปท. ระบุ

สำหรับสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาทนั้น นายเศรษฐพุฒิ กล่าวว่า ยอมรับว่าในระยะหลัง เงินบาทแข็งค่าค่อนข้างเร็ว และผันผวนมากกว่าบางประเทศ แต่ไม่ได้ผันผวนมากที่สุดในภูมิภาค ซึ่งมีสกุลเงินอื่นผันผวนมากกว่าไทย เช่น มาเลเซีย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระทบกับทั่วโลก แต่ในไทยนั้นมีปัจจัยเฉพาะเพิ่มเข้ามา คือ ราคาทองคำ ที่เงินบาทมีความสัมพันธ์กับราคาทองคำมากกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาค รวมทั้งการเมืองในประเทศที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดยปีนี้ บาทแข็งค่าไปแล้ว 3.1% (year to date)

ทั้งนี้ สิ่งที่ ธปท. ไม่อยากเห็นคือ การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐาน หรือมาจากการเก็งกำไรค่าเงิน หรือ hot money ซึ่งทำให้ความผันผวนของค่าเงินเกิดขึ้นโดยไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง แต่ปัจจุบัน ยังไม่เห็น hot money เข้ามา โดยภาพรวมเงินทุนในปีนี้ การไหลออกน้อยกว่าปีก่อน ปีก่อนเงินทุนไหลออก 9.9 พันล้านดอลลาร์ ปีนี้ประมาณ 2.2 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี นโยบายการเงินมีต้นทุนและผลประโยชน์ที่ผู้ดำเนินนโยบายต้องพยายามรักษาสมดุลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ธนาคารกลางทั่วโลก มีพันธกิจที่คล้ายคลึงกัน คือ ไม่เพียงต้องการเห็นเศรษฐกิจขยายตัว แต่ต้องเสริมสร้างให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย ซึ่งต้องอาศัยเสถียรภาพด้านราคาและเสถียรภาพระบบการเงินเป็นพื้นฐานสำคัญ ธนาคารกลางจึงถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการดำเนินนโยบายการเงินที่ต้องให้น้ำหนักกับเสถียรภาพในระยะยาว ถึงแม้การกระตุ้นเศรษฐกิจจะสามารถทำได้ผ่านการกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำซึ่งจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้รวดเร็วในระยะสั้น แต่มักต้องแลกมาด้วยภาวะเงินเฟ้อ และอาจเป็นการสะสมความเปราะบางในระบบเศรษฐกิจจากการก่อหนี้เกินตัวหรือพฤติกรรมเก็งกำไรของนักลงทุน ซึ่งจะฉุดรั้งการเติบโตในระยะยาวหรือนำไปสู่วิกฤตร้ายแรงได้

ทั้งนี้ หน้าที่ในการ “มองยาว” ของธนาคารกลางจึงต้องมาพร้อมกับอิสระในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุพันธกิจดังกล่าว หลาย ๆ ครั้งในการทำหน้าที่ของธนาคารกลางต้องดำเนินนโยบายในลักษณะที่สวนทางกับวัฏจักรเศรษฐกิจ ซึ่งกระทบต่อทุกภาคส่วนเป็นวงกว้างและย่อมมีทั้งผู้ที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ดังนั้น หากธนาคารกลางไม่อิสระเพียงพอก็อาจทำให้เสียหลักการของการ “มองยาว” ได้ ซึ่งที่ผ่านมา ธปท. ได้ดำเนินการในหลาย ๆ ด้านเพื่อช่วยให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพในระยะยาว

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมกองกำลังนเรศวร และหน่วยฝึกทหารใหม่ จ.ตาก เน้นย้ำมาตรฐานการฝึกอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

2 พ.ค. 2568 19:27 59 views

ข่าว

ไทย-มาเลเซีย จับมือฟื้นรถไฟสุไหงโก-ลก เชื่อมเศรษฐกิจ เตรียมคัมแบ๊ก รถไฟกรุงเทพฯ- บัตเตอร์เวิร์ธ

2 พ.ค. 2568 16:15 88 views

ข่าว

‘อธิบดีโยธาฯ’​รายงานคืบหน้าสอบโครงสร้าง‘ตึก สตง.’ถล่มต่อ‘มท.1’ พุ่งเป้า‘คำนวณ-แก้ไขแบบก่อสร้าง’

2 พ.ค. 2568 16:11 86 views

ข่าว

“ไอติม” เป็นห่วง “รัฐบาล” ผลักดันค่าแรง 400 บาท กังวลแทน กลัวประชาชนไม่เชื่อมั่น

2 พ.ค. 2568 14:27 97 views

ข่าว

“พีระพันธุ์” ยังไม่ทราบ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา คดีแจกถุงยังชีพ

2 พ.ค. 2568 14:25 103 views

ข่าว

‘สส.ประชาชน’ โวย ‘กยศ.’ หักเงินเพิ่ม 3 พันบาท กระทบแรงงาน ทำคนติดหนี้นอกระบบเพิ่ม

2 พ.ค. 2568 14:12 106 views

ข่าว

สงขลาเตรียมความพร้อม ทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast System วันนี้

2 พ.ค. 2568 12:51 94 views

ข่าว

‘สภ.รัตนาธิเบศร์’อ่วม! งานหนักคนน้อย เครียดซึมเศร้า ‘ผบช.ภ.1’รุดช่วยปรับกำลัง-ชงตร.เพิ่ม

2 พ.ค. 2568 12:39 108 views

ข่าว

“ดำรง-นารากร” 2 พิธีกรชื่อดังเข้าแจ้งความตำรวจ สน.บางซื่อ เอาผิดผู้ว่า สตง.

2 พ.ค. 2568 12:28 124 views

ข่าว

จงรักภักดีในสายเลือด! "อนุทิน"​ยันไม่เคยคิดแอบอ้างสถาบัน​ หลังชื่อโผล่ในเอกสาร"กอ.รมน." ​

2 พ.ค. 2568 12:19 198 views

ข่าว

‘ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี’ เข้ากระทรวงมหาดไทย ไหว้ขอโทษ ‘อนุทิน’ ปมแต่งตั้งที่ปรึกษาชาวจีนทำสังคมวิจารณ์สนั่น

2 พ.ค. 2568 12:12 102 views

ข่าว

'คิงชาร์ลส์ที่3'ทรงเปิดใจหลังป่วยโรคมะเร็ง ตรัสขอบคุณทีมแพทย์ที่ถวายการรักษา

2 พ.ค. 2568 10:23 154 views

ข่าว

‘ทรัมป์’โบ้ยเศรษฐกิจไม่ดีเพราะ‘ไบเดน’ ท่ามกลางคะแนนนิยมลดต่ำลง

2 พ.ค. 2568 10:14 139 views

ข่าว

ปอศ.บุกบ้านเสี่ยโน้ต ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดเฉียด 2,000% ต่อปี

2 พ.ค. 2568 10:03 184 views

ข่าว

เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง! 'มุกดาหาร' ยืนยันเสียชีวิต 1 ราย จากโรคแอนแทรกซ์

2 พ.ค. 2568 10:03 162 views

ข่าว

ตลาดปท.เพื่อบ้านสดใส Q1ค้าชายแดน-ผ่านแดนเติบโตสูง

2 พ.ค. 2568 10:01 153 views