ยานนิก ซินเนอร์ นักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวอิตาเลียน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกแปลกใจที่องค์กรต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาด้า) ยื่นอุทธรณ์เรื่องคำตัดสินเคลียร์ชื่อเขาจากกรณีไม่ผ่านการตรวจสารต้องห้าม 2 ครั้ง เมื่อเดือนมีนาคม

ก่อนหน้านี้ ซินเนอร์ไม่ผ่านการตรวจสารต้องห้ามถึง 2 ครั้ง และคณะกรรมการไต่สวนอิสระยอมรับคำอธิบายที่ว่า เทรนเนอร์ส่วนตัวของเขาซื้อยาประเภทสเปรย์มาใช้เองจากร้านทั่วไปซึ่งเป็นยาที่ได้รับความนิยมในอิตาลี และต่อมานักกายภาพบำบัดนำยาดังกล่าวไปใช้รักษาแผลที่นิ้ว และมาจับตัวของซินเนอร์ระหว่างการทำกายภาพบำบัดโดยไม่ได้สวมถุงมือ ทำให้ตัวยาถูกส่งผ่านไปยังซินเนอร์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งเมื่อคณะกรรมการไต่สวนอิสระซึ่งได้รับการรับรองจากองค์กรนานาชาติเพื่อความโปร่งใสในกีฬาเทนนิส (ไอทีไอเอ) เคลียร์ชื่อให้เขาแล้ว เรื่องนี้จึงเพิ่งปรากฏเป็นข่าวเมื่อกลางเดือนสิงหาคม ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนในวงการ ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติขององค์กรที่รับผิดชอบ ส่วนซินเนอร์ได้เลิกจ้างทั้งเทรนเนอร์และนักกายภาพบำบัดที่เป็นต้นเหตุในทันที

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้ว วาด้าแถลงว่า การตัดสินของคณะกรรมการไต่สวนอิสระไม่เป็นไปตามกฎ และได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) โดยระบุว่า ซินเนอร์ควรโดนแบน 1-2 ปี

นักหวดวัย 23 ปี เจ้าของ 2 แชมป์แกรนด์สแลมปีนี้ กล่าวว่า แน่นอนว่ารู้สึกผิดหวังและประหลาดใจที่วาด้ายื่นอุทธรณ์ดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาได้ทำการไต่สวนถึง 3 ครั้ง และทั้ง 3 ครั้งก็มีผลออกมาทำนองเดียวกัน ตนเพิ่งจะรู้เรื่องนี้เมื่อไม่กี่วันก่อนว่าทางวาด้าจะยื่นอุทธรณ์ และมาดำเนินการอย่างเป็นทางการในตอนนี้