วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2567
2 ต.ค. 2567 09:42 | 474 view
@pracha
ต่างชาติลงทุนไทยเพิ่ม 23% 8 เดือนนำเงินเข้ากว่าแสนล้านบาท
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เปิดเผยว่า ช่วง 8 เดือนของปี 2567 (มกราคม-สิงหาคม) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 535 ราย เพิ่มขึ้น 23% โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 143 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 392 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 100,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% จ้างงานคนไทยจากนักลงทุนที่ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 2,505 คนลดลง 44%
ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ญี่ปุ่น 136 ราย คิดเป็น 25% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 53,176 ล้านบาท 2.สิงคโปร์ 82 ราย คิดเป็น 15% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 8,438 ล้านบาท 3.สหรัฐฯ 76 ราย คิดเป็น 14% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ เงินลงทุน 3,589 ล้านบาท 4.จีน 68 ราย คิดเป็น 13% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ เงินลงทุน 8,350 ล้านบาท 5.ฮ่องกง 40 ราย คิดเป็น 7% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 12,330 ล้านบาท
“การเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่นองค์ความรู้เกี่ยวกับทักษะการขุดเจาะวางท่อในแนวราบด้วยวิธีการที่ไม่รบกวนผิวดินองค์ความรู้เกี่ยวกับมาตราการความปลอดภัยชีวภาพในระดับฟาร์ม องค์ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของแพตฟอร์มเช่าซื้อ องค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้ การตรวจสอบ ติดตั้ง และซ่อมแซมเครื่องมือแพทย์อัลตราซาวนด์ เป็นต้น”นางอรมนกล่าว
ส่วนการลงทุนในพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของนักลงทุนต่างชาติ ช่วง 8 เดือน ของปี 2567 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 163 ราย คิดเป็น 30% ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตในปีนี้ เพิ่มขึ้น 90% และมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 32,573 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของเงินลงทุนทั้งหมด เพิ่มขึ้น 128% เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 53 ราย ลงทุน 11,749 ล้านบาท จีน 39 ราย ลงทุน 3,901 ล้านบาท ฮ่องกง 15 ราย ลงทุน 5,064 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ 56 ราย ลงทุน 11,859 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ ธุรกิจบริการทางวิศวกรรม โดยเป็นการออกแบบทางวิศวกรรมสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ธุรกิจบริการออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์ประเภทเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัย ธุรกิจบริการซ่อมแซมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า (อาทิ ผลิตภัณฑ์เคมีเพื่ออุตสาหกรรม ชิ้นส่วนสำหรับยานพาหนะ ชิ้นส่วนสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น) ธุรกิจบริการบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือให้บริการ เช่น การวางแผนจัดหาและจัดซื้อชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ข่าว
10 ต.ค. 2567 15:14 216 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 15:10 155 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 15:06 143 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 14:36 181 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 14:33 165 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 14:31 154 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 14:04 96 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 12:44 219 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 11:35 153 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 11:34 165 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 11:30 172 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 11:27 182 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 11:24 156 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 11:21 219 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 09:38 172 views
ข่าว
10 ต.ค. 2567 09:35 191 views