สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรสถานที่สำคัญ และร้านค้าบนถนนเยาวราช เนื่องในงานเทศกาลตรุษจีน เยาวราช ปี 2567

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ปี 2567 จากนั้น ประทับรถไฟฟ้า ทอดพระเนตรสถานที่สำคัญ และร้านค้าบนถนนเยาวราช ซึ่งตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยประชาชนและชาวต่างชาติ ที่มาร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จอย่างเนืองแน่น  

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชา พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม ปางประทานพร ศิลปะสมัยราชวงศ์ถัง อายุกว่า 900 ปี แกะสลักจากไม้เนื้อหอมเชิญมาจากจีน โดยมูลนิธิเทียนฟ้าเป็นมูลนิธิแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งขึ้นเพื่อสงเคราะห์ผู้ป่วยยากไร้ให้ได้รับการรักษาพยาบาล ทั้งแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน 

โอกาสนี้ ทอดพระเนตร การออกร้านของหน่วยงานต่างๆ  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงผัดหมี่มงคล ปีมังกรทอง พระราชทานเป็นสิริมงคล ที่บูธร้านภัทรพัฒน์ มูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่ง หมี่มงคล หรือหมี่ซั่ว ภาษาจีนเรียกว่า ฉางโซ่วเมี่ยน ฉางโซ่ว แปลว่า ยาวต่อเนื่อง สื่อถึงอายุ และเมี่ยน คือ เส้นบะหมี่  / ยอดนิยมรับประทานในเทศกาลมงคลต่างๆ สำหรับน้ำมันที่ทรงใช้ผัดนั้น ทรงใช้น้ำมันเมล็ดคามีเลีย หรือน้ำมันเมล็ดชา ตราภัทรพัฒน์ ของมูลนิธิชัยพัฒนา ผลิตผลจากต้นชาน้ำมันที่พระราชทานให้มูลนิธิชัยพัฒนา นำไปปลูกในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 

จากนั้น ประทับรถไฟฟ้า เสด็จพระราชดำเนินไป วัดสัมพันธวงศาราม ถนนทสวัสดิ์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระประธานพระอุโบสถ  จากนั้น ทรงเปิดอาคารพุ่มเทียนประสิทธิ์  เป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ประวัติของวัดสัมพันธวงศ์  รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเขตสัมพันธวงศ์ ที่สำคัญในอดีต 

ถนนเยาวราช สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้รับการขนานนามว่า ถนนมังกร โดยเป็นย่านธุรกิจการค้าสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน ปัจจุบันยังคงมีร้านค้าเก่าแก่มากมายยังคงเปิดให้บริการอยู่

จากนั้น ประทับรถไฟฟ้า เสด็จพระราชดำเนิน ไปวัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระยาโชฎึกราชเศรษฐี เจ้ากรมท่าซ้าย ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวจีน สร้างขึ้นเมื่อปี 2414 สังกัดคณะสงฆ์นิกายจีน 
ในการนี้ ทรงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ พระศรีอริยเมตไตรย (พระสังกัจจายน์)   พระประธานในพระอุโบสถ 3 องค์ ประกอบด้วย พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า , พระอมิตาภพุทธเจ้า และพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์เปรียบเหมือนพระรัตนตรัยของฝ่ายมหายาน  โอกาสนี้ ทรงวางพวงมาลัยสักการะ พระศรีอริยเมตไตรย   ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชา พระพุทธปฏิมาตรีกาย พระประธานอุโบสถ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาเทพคุ้มครองชะตาชีวิต (ไท่ส่วยเอี๊ย) เทพเจ้าไภษัชยราช และเทวแพทย์ฮั่วโต๋ (ฮั่วท้อ )

นอกจากนี้ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดป้ายร้านน้ำเต้าทองแห่งใหม่ ของบริษัทคั้นกี่น้ำเต้าทอง จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2444 รู้จักกันในนามของยาขมน้ำเต้าทอง "ซังโฮ่วโล้วเลี่ยงเต๊" เป็นตำรับสมุนไพรของชาวจีนตอนใต้ ที่มีประวัติการใช้ยาวนานกว่า 200 ปี รับประทาน