‘ราชทัณฑ์’แถลงเหตุ‘บุ้ง’เสียชีวิต ย้ำไม่ยอมรับเกลือแร่ แต่กินข้าว

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ที่ชั้น 2 กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี กรมราชทัณฑ์ แถลงข่าวกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง ซึ่งเสียชีวิตเมื่อเวลา 11.22 น.วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังหัวใจหยุดเต้น โดยแพทย์ปั๊มหัวใจ เร่งนำตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ โดย “บุ้ง” ถูกคุมขังภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ เป็นเวลา 110 วัน มี นพ.สมภพ สังคุตแก้ว ผู้ตรวจราชการกรม , นางอาจารี ศรีสุนาครัว ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง และนพ.พงศ์ภัค อารียาภินันท์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าร่วมการแถลง

นพ.พงศ์ภัค กล่าวว่า รายละเอียดอาหารที่ บุ้ง เนติพร รับประทานในแต่ละวัน จะมีการบันทึกเอาไว้ ซึ่งอาจจะต้องไปดูรายละเอียด จะมีรายละเอียดอยู่ อาการของ บุ้ง ก็จะมีอาการอ่อนเพลีย การทานอาหารทานได้ตามลำดับ เท่าที่เห็นคือทานข้าวต้มได้ ทานไข่เจียว เป็นต้น ซึ่งน้องค่อยๆ เริ่มทานขึ้นเรื่อยๆ

นพ.พงศ์ภัค ไม่ได้ตอบถึงประเด็นที่ว่า บุ้ง กลับมาทานตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ แต่ระบุว่า บุ้ง เริ่มกลับมาทานตามลำดับ ขึ้นอยู่กับอาการว่าแน่นท้องหรือเปล่า อืดท้องหรือเปล่า ซึ่งจากรายงานก็มีทานเป็นระยะ หากช่วงไหนที่แน่นท้อง ก็จะทานได้น้อยลง เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ แต่หากมีผลชันสูตรออกมา น่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้น ยืนยันว่าด้านสารบำรุงร่างกายต่างๆ โรงพยาบาลมีเตรียมไว้ให้ แต่ น.ส.เนติพร ปฏิเสธที่จะไม่รับ

ขณะที่ นพ.สมภพ กล่าวว่า ลักษณะของคนที่อดอาหารมาระยะเวลาหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระเพาะอาหารก็ดี ระบบทางเดินอาหาร จะต้องมีการค่อยๆรับประทานอาหาร อาจจะเป็นอาหารอ่อนก่อน เหมือนกับพวกเราที่จะไปผ่าตัดเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร แพทย์ก็จะให้ทานอาหารอ่อนก่อน การที่ บุ้ง ได้รับอาหารคือบางมื้ออาจจะได้นิดเดียว แต่ รพ.ราชทัณฑ์ เราจัดอาหารให้ 3 มื้อ ว่าจะทานได้มากได้น้อยอย่างไรก็จะมีการบันทึกปริมาณไว้ เช่น อย่างยาที่เราจัดให้ จะเป็นวิตามินบำรุงเลือด เพราะเราตรวจเลือดพบว่ามีภาวะโลหิตจาง ซึ่งน้องพอเราไปตรวจก็พบว่าน้องปฏิเสธที่จะรับประทานตรงนี้

เมื่อถามว่า หลังจาก บุ้ง ปฏิเสธ ทางแพทย์ได้ให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำหรือไม่ ผู้ตรวจราชการกรม กล่าวว่า ถ้าโดยทางปกติ ถ้าสามารถรับประทานอาหารได้ และเรามีการตรวจสภาพร่างกายโดยทั่วๆไปของผู้ป่วย ถ้าสามารถรับประทานอาหารเองได้ จะให้ทาน ส่วนการให้สารอาหารทางน้ำและหลอดเลือด ปกติเราจะให้ในภาวะเสียน้ำอย่างรุนแรง เหมือนคนท้องเสีย หรือคนที่อยู่ในภาวะของสารน้ำที่ไม่พอ เพราะสารน้ำที่ให้ทางเลือดก็คือน้ำเกลือ ไม่ได้มีสารอาหารเช่นโปรตีน หรืออะไรอยู่ในนั้น

///////////////////////////