นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ของอังกฤษ ประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในวันที่ 4 กรกฎาคม หลังสถานการณ์ของพรรคอนุรักษนิยมอึมครึมมานานหลายเดือน เช่นเดียวกับความรู้สึกของประชาชน

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ของอังกฤษ ประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 4 กรกฎาคม เพื่อล้างไพ่ทางการเมืองและหวังให้การทำงานในช่วงสุดท้ายเป็นโอกาสอันดีในการกอบกู้ภาพลักษณ์ของพรรคอนุรักษนิยมที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ

การเลือกตั้งทั่วไปในอีก 43 วันข้างหน้าจะเป็นครั้งแรกที่ซูนัควัย 44 ปี ได้ลงชิงชัยในสนามด้วยตัวเองในฐานะหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม หลังจากเขาขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศด้วยการแต่งตั้งของพรรคฯในเดือนตุลาคม 2565

แต่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดระบุว่า พรรคอนุรักษนิยมยังมีอุปสรรคให้ต้องก้าวข้ามอีกมาก หากหวังจะกลับมาครองตำแหน่งบริหารเป็นวาระที่ 6 ติดต่อกัน

ผลสำรวจเผยว่า พรรคแรงงานมีคะแนนนิยมนำพรรคอนุรักษนิยมอยู่หนึ่งช่วงตัว ขณะที่ริชี ซูนัคมีคะแนนนิยมส่วนบุคคลตามหลังเคียร์ สตาร์เมอร์ของพรรคแรงงานเช่นกัน

การลงคะแนนเสียงครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่อังกฤษตัดสินใจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในปี 2559 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าซูนัคจะพยายามใช้ประโยชน์จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นเพื่อโน้มน้าวผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ไม่พอใจกับสภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

การลดอัตราเงินเฟ้อลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในหนึ่งปีจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยสูงกว่า 11% เมื่อสิ้นปี 2565 จะเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญ 5 ประการของอดีตนักการเงินผู้นี้ที่จะใช้ในการหาเสียง

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 2.3% ส่งผลให้รัฐบาลสามารถใช้อ้างได้ว่านโยบายการทำงานพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง

ซูนัคกล่าวในถ้อยแถลงที่ถนนดาวนิงท่ามกลางฝนตกหนักหลังจากประชุมกับคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่า เขาได้เข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งเป็นประมุขแห่งรัฐ และขอประทานอนุญาตให้มีการยุบสภา

"พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงประทานอนุญาตต่อคำขอนี้ และเราจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 4 กรกฎาคม" ซูนัคกล่าว พร้อมเสริมว่า "ตอนนี้เป็นเวลาสำหรับประชาชนอังกฤษทุกคนในการเลือกอนาคตของประเทศ"

หลังจากนี้ การประชุมรัฐสภาสมัยปัจจุบันในวันศุกร์จะถูกระงับ จากนั้นจะมีการยุบสภาอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีหน้า ตามมาด้วยการรณรงค์หาเสียงสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่

เคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่นำพรรคแรงงานกลับมาผงาดได้อีกครั้งในการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อต้นเดือนนี้ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะสามารถสานต่อความนิยมของประชาชนด้วยการคว้าคะแนนเสียงอย่างถล่มทลาย เพื่อพลิกฟื้นโฉมหน้าอังกฤษและยุติความสับสนวุ่นวายจากการบริหารประเทศของพรรคอนุรักษนิยมตลอด 14 ปีที่ผ่านมา

ปัญหาเศรษฐกิจและการคลังของประเทศจะเป็นประเด็นหลักสำหรับการพิจารณาของประชาชน และถือเป็นงานหนักของผู้นำรัฐบาลคนปัจจุบันที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าประเทศจะเติบโตและเดินหน้าได้อย่างมั่นคง หลังสั่นคลอนลงเรื่อยๆนับตังแต่แยกตัวจากสหภาพยุโรป

ทั้งนี้ ซูนัคพยายามประคองความมั่นคงของรัฐบาลมาตลอด นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งต่อจากลิซ ทรัสส์ซึ่งอยู่ในวาระแค่เพียง 49 วันเพราะทำเศรษฐกิจพังจากนโยบายลดหย่อนภาษีจนค่าเงินปอนด์ร่วงหนัก

ขณะที่สตาร์เมอร์ วัย 61 ปี จากพรรคแรงงานกำลังก่อร่างสร้างคะแนนนิยมมากขึ้นเรื่อยๆตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และหวังจะมีชัยถล่มทลายแบบที่โทนี แบลร์เคยทำไว้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สตาร์เมอร์ได้ให้คำมั่นสัญญาสำคัญ 6 ข้อที่จะช่วยขับเคลื่อนการหาเสียงเลือกตั้ง โดยมุ่งดำเนินนโยบายให้สัมพันธ์กับกลุ่มประเทศยุโรป, รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ, ลดเวลารอรับบริการด้านสุขภาพ และเสริมความมั่นคงชายแดนเพื่อจัดการกับการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดปกติ

นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะก่อตั้งบริษัทพลังงานสะอาดที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม, ปราบปรามพฤติกรรมอันเป็นภัยต่อสังคมด้วยการประจำการตำรวจตามชุมชนท้องถิ่นมากขึ้น และรับสมัครครูเพิ่มขึ้นอีก 6,500 อัตรา.

/////////////////////