×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2568

?>

กกร.จี้ ธปท. ดูแล พร้อมประเมินน้ำท่วมทุบเศรษฐกิจพัง 5 หมื่นล้านบาท ฉุดจีดีพี 0.2%

 3 ต.ค. 2567 12:23 | 1434 view

 @pracha

Facebook X Share

กกร. โอดบางแข็งต่อเนื่อง 3 เดือนทะยาน 12% หรือแตะ 4.50 บาท หวั่นยังต่อเนื่องจนหมดช่วงที่เหลือของปีนี้ กระทบส่งออก 1.8-2.5 แสนล้านบาท จี้ ธปท. ดูแล พร้อมประเมินน้ำท่วมทุบเศรษฐกิจพัง 5 หมื่นล้านบาท ฉุดจีดีพี 0.2%

2 ต.ค. 2567 – นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่าที่ประชุมประเมินค่าเงินบาทในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว 12% หรือคิดเป็น 4.50 บาท จาก 36.8 บาท มาอยู่ที่ 32.3 บาท/เหรียญสหรัฐ เป็นการแข็งค่ากว่าค่าเงินอื่นในภูมิภาค กดดันการส่งออกและเป็นปัจจัยลบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหารที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก ซึ่งหากค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี อาจกระทบรายได้ส่งออก 1.8-2.5 แสนล้านบาท      

“กกร.มีความกังวลต่อสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ควรให้ความสำคัญกับการดูแลค่าเงินไม่ให้แข็งค่าหรือผันผวนเร็วจนเกินไป และทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าระดับ 34.0-34.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่ธุรกิจแข่งขันได้ และให้เร่งพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 0.25% ภายในปีนี้ และอีกประมาณ 0.25-0.5% ภายในปีหน้า ช่วยลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว และให้พิจารณาทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ที่กำลังอยู่ในช่วงหารือร่วมกับกระทรวงการคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับบริบทศักยภาพและโครงสร้างของเศรษฐกิจประเทศทั้งปัจจุบันและอนาคต”นายสนั่น กล่าว

ขณะเดียวกันยังต้องติดตามผลกระทบจากอุทกภัยและแนวโน้มพายุลูกใหม่ที่อาจเข้าไทยอีกในช่วงไตรมาส 4/2567 ซึ่งคาดว่าน้ำท่วมรอบนี้จะทำให้เกิดความเสียหายราว 3-5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.2% ของจีดีพี โดยภาคเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด จากสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจขยายวงกว้างมากขึ้น และต้องรอติดตามส่วนของการเยียวยาและมาตรการที่เข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา

ขณะที่การทำงานแบบบูรณาการทั้งพัฒนาระบบแจ้งเตือนระดับน้ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ทราบแบบ Real time ผ่านโทรศัพท์มือถือ และมีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการเร่งแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตรทั้งในฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ต้นน้ำป้องกันปัญหาน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงแรงสนับสนุนจากภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน กกร.จึงยังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะยังสามารถขยายตัวได้ในกรอบ 2.2-2.7%

นอกจากนี้ ที่ประชุม กกร. ได้มีการพิจารณาข้อเสนอต่อแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าของประเทศ (PDP2024) เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและสร้างเสถียรภาพด้านพลังงาน โดยมี 6 ข้อเสนอ ดังนี้ 1.การปรับเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศ(LT-LEDS) เพื่อบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ของประเทศไทย

2. การเพิ่มสัดส่วนของไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมร่วมกับแบตเตอรี่ (BESS) โดยในช่วงเปลี่ยนผ่านควรลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานด้วยการเร่งพัฒนาแหล่งพลังงานจาก OCA ไทย-กัมพูชา 3. ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อพิจารณาจัดหาพลังงานทางเลือกใหม่ในสัดส่วนที่เหมาะสม อาทิ ไฮโดรเจน นิวเคลียร์ (SMR) การใช้พลังงานหมุนเวียนร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน เป็นต้น

4. เร่งให้ความสำคัญการเปิดเสรีไฟฟ้า ในระยะเร่งด่วนควรเร่งการเปิดใช้ระบบโครงข่ายไฟฟ้าแก่บุคคลที่สาม (Third Party Access, TPA) ภายในปี พ.ศ. 2569 5. การพิจารณาความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ และความจำเป็นในการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่โดยเทียบกับทางเลือกในการ Repowering หรือ Overhaul โรงไฟฟ้าเดิม และ 6. เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาพลังงาน (กรอ.พลังงาน) ซึ่งให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อภาครัฐในการเสนอแนะนโยบาย แผนการบริหารและพัฒนามาตรการด้านพลังงานของประเทศ ต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

พายุดีเปรสชันทวีกําลังแรง! ไทยไม่โดนตรง แต่ฝนหนักหลายพื้นที่

18 ก.ย. 2568 15:04 2.18K views

ข่าว

"ภูมิธรรม" ข้องใจปมเขากระโดง พลิกได้อย่างไร

18 ก.ย. 2568 14:43 104 views

ข่าว

“เอกนิติ” เล็งหารือ วิทัย เตรียมมาตรการดูแลค่าบาทแข็ง

18 ก.ย. 2568 14:41 76 views

ข่าว

หอการค้า เปิดบ้านถก อนุทิน ยื่น 7 ข้อเสนอด่วน หวังฟื้นฟูศก.ไทย ลดความผันผวน-สู้ความท้าทาย

18 ก.ย. 2568 14:35 74 views

ข่าว

ร้อง DSI เปิดเหตุผล หลังพบคําสั่งชะลอสอบ “เขากระโดง–ฮั้ว ส.ว."

18 ก.ย. 2568 14:09 78 views

ข่าว

ประชาธิปัตย์เคาะวันโหวตเลือกผู้นําชุดใหม่ 18 ต.ค.

18 ก.ย. 2568 13:52 80 views

ข่าว

ภูมิธรรม ชี้ ‘พินทองทา’ ทําธุรกิจดีอยู่แล้ว แย้มอาจทาบ ‘ณัฐพงศ์’ สามีเอมนั่งแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยหากเสียงเชียร์เยอะ

18 ก.ย. 2568 12:28 140 views

ข่าว

T-POP โกอินเตอร์ ! LYKN นําร่องถ่ายทําโปรเจกต์ยักษ์ที่ฮ่องกง

18 ก.ย. 2568 12:22 2.2K views

ข่าว

"นายกฯ"แปลกใจ มท.กลับลําไม่เพิกถอน"เขากระโดง" ยันยึดกฎหมาย-ไม่เอาเปรียบประชาชน

18 ก.ย. 2568 12:18 138 views

ข่าว

"อิ๊งค์-เอม"พร้อมสามี เยี่ยม"ทักษิณ" เผยพ่อนอนไม่ค่อยดี เพลีย ผมร่วง ความดันขึ้น

18 ก.ย. 2568 11:57 124 views

ข่าว

"เตนล์" (TEN)  ปังไม่หยุด! เป็นศิลปินเดี่ยว K-POP คนแรกที่คว้าชัยในเวทีสวีเดน

18 ก.ย. 2568 11:43 3.15K views

ข่าว

แรงงานเกาหลีใต้เปิดใจ ถูกใส่กุญแจมือ จ่อปืน ขังในห้องหนาวเหน็บ

18 ก.ย. 2568 11:37 115 views

ข่าว

"นายกฯ"ย้ําให้เกียรติทหาร มอบกองทัพแจงเหตุปะทะหนองหญ้าแก้ว

18 ก.ย. 2568 11:37 56 views

ข่าว

ทบ.โต้กัมพูชาบิดเบือนเหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว

18 ก.ย. 2568 11:27 114 views

ข่าว

เวียดนามนําหน้าไทย ขึ้นเป็น จุดหมายปลายทางยอดนิยม ของนักท่องเที่ยวจีน

18 ก.ย. 2568 11:07 108 views

ข่าว

“นายกฯ” นําทีมเศรษฐกิจประชุมร่วมหอการค้าไทย บอกโจทย์หลักรบ.มุ่งแก้ปากท้อง

18 ก.ย. 2568 11:01 107 views