‘แฮร์ริส’ สุดมั่น! อเมริกาพร้อมเลือก ปธน.หญิงคนแรก ‘ทรัมป์’ ให้เลือก 4 ปีที่ล้มเหลว หรือ 4 ปีที่ยิ่งใหญ่

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีและผู้สมัครตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ทางเครือข่ายสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี เมื่อวันอังคาร(22 ต.ค.)ตามเวลาท้องถิ่นว่า อเมริกาพร้อม “อย่างแน่นอน” ที่จะเลือกประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ เป็นการตอบคำถามเมื่อถูกถามว่าอเมริกาพร้อมที่จะเลือกผู้หญิงคนแรกหรือไม่ โดยแฮร์ริสยังกล่าวด้วยว่าการเสนอตัวของเธอคือ การเริ่มต้นใหม่สำหรับประเทศที่เหนื่อยล้าจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและคู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน

“ประชาชนต่างรู้สึกเบื่อหน่ายกับโดนัลด์ ทรัมป์ และวิถีทางของเขา” แฮร์ริสกล่าว พร้อมบอกเอ็นบีซีด้วยว่า การรณรงค์ของเธอแน่นอนว่าพร้อมสำหรับฉากทัศน์ที่ทรัมป์จะกล่าวอ้างชัยชนะก่อนเวลาอันควรในระหว่างที่กระบวนการนับคะแนนเสียงยังดำเนินอยู่ ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันจึงจะเสร็จสมบูรณ์

ด้านทรัมป์กล่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุน ขณะหาเสียงในรัฐนอร์ทแคโรไลนา หนึ่งในรัฐสะวิงสเตตว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นทางเลือกระหว่าง เราจะเผชิญกับการไร้ความสามารถ ความล้มเหลวและหายนะต่อไปอีก 4 ปี หรือเราจะเริ่มต้นใหม่สำหรับ 4 ปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเรา

นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวเรียก แฮร์ริส และทิม วอลซ์ คู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตว่า “โง่” ท่ามกลางการส่งเสียงเชียร์ของผู้สนับสนุนทรัมป์

ในห้วงเวลาที่เหลืออีกเพียง 2 สัปดาห์ก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ทั้งแฮร์ริสและทรัมป์ต่างยังคงเร่งหาเสียงในพื้นที่รัฐสะวิงสเตต ซึ่งมีผลอย่างสำคัญที่จะตัดสินว่าผู้สมัครคนใดจะเป็นฝ่ายคว้าชัย โดยผู้สมัครต่างลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงและให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ท่ามกลางโพลสำรวจหลายสำนักที่ชี้ว่าคะแนนนิยมของผู้สมัครทั้งสองยังคงสูสีกันอย่างมาก
ขณะที่มีรายงานว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันราว 18 ล้านคน ที่ได้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์หรือใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าด้วยตนเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 10 ของทั้งหมดในการเลือกตั้งปี 2020 ผลสำรวจบางแห่งยังดูเหมือนว่าให้ ทรัมป์ ผู้สมัครพรรครีพับลิกัน วัย 78 ปีที่เป็นผู้สมัครที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ได้เปรียบอยู่เล็กน้อยเมื่อเร็วๆ นี้ แต่โพลสำรวจทั้งหมดยังอยู่ในขอบเขตของความคลาดเคลื่อน