พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงถึงกรณีเหตุการณ์คนร้ายก่อกวนและสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเจ้าหน้าที่

ในเหตุการณ์แรก เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อคนร้ายได้ลอบวางระเบิดใส่ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนของกองร้อยทหารพรานที่ 4515 ขณะที่กำลังเดินทางกลับหลังจากเข้าพบปะผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่บ้านกูจิงลือปะ ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 นาย

เหตุการณ์ต่อมาในวันเดียวกัน กลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คน ได้ปล้นรถยนต์กระบะขององค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เพื่อนำไปประกอบเป็นระเบิด จากนั้นได้นำรถยนต์ดังกล่าวมาจอดไว้บนถนนระหว่างสถานีตำรวจภูธรปะนาเระกับที่ว่าการอำเภอปะนาเระ และเกิดเหตุระเบิดขึ้น ส่งผลให้ทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้

ทั้งนี้ พันเอกเกียรติศักดิ์ยังได้กล่าวถึงคดีตากใบ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน โดยย้ำว่าผู้ว่าราชการภาค 4 ได้พยายามสร้างความเข้าใจและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยรัฐบาลได้ดำเนินการจ่ายค่าชดเชยเป็นเงินกว่า 641 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเสียหายและเยียวยาจิตใจของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

โฆษกฯ ย้ำให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหา และได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ ในกรอบเวลาที่จำกัด ทั้งนี้ขอให้ประชาชนร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อความสงบสุขในพื้นที่