×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป ข่าวพระราชสำนัก คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ FM94 ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568

?>

'ขุนคลัง' ยันจีดีพีปีนี้โต2.7%แจ่มแล้ว รับแบงก์จ่อชงลดเงินนำส่งFIDFแลกแก้หนี้

 4 พ.ย. 2567 15:38 | 1121 view

 @pracha

Facebook X Share

“ขุนคลัง” ยันจีดีพีปีนี้โต 2.7% แจ่มแล้ว หลังอ่วมพิษน้ำท่วม-งบอืด ยันรัฐบาลเร่งพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น พร้อมเข็นลงทุนรัฐปูพรมระยะกลาง-ยาว เตรียมถกสรุปแก้หนี้ครัวเรือน รับแบงก์จ่อชงลดเงินนำส่ง FIDF ชูเอาประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง หากได้ข้อสรุปพร้อมชง ครม. พิจารณาทันที แนะไทยเร่งปรับตัว ไม่ว่า ทรัมป์หรือแฮร์ริส มงลงนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ

4 พ.ย. 2567 – นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง กล่าวว่า แนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 2.7% นั้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแล้ว เป็นการเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาถึง 30% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด และงบประมาณปี 2567 ที่ออกมาล่าช้า ซึ่งขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอาจจะเน้นไปที่มาตรการกระตุ้นในระยะสั้นเป็นหลัก เพื่อให้คนที่มีปัญหายังสามารถอยู่รอดได้ ส่วนมาตรการระยะปานกลาง และระยะยาวนั้น ก็ต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วย เพื่อรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว

ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการระยะปานกลาง และระยะยาวนั้น รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการเร่งลงทุนของภาครัฐเพื่อรองรับการลงทุนใหม่ของภาคเอกชน เช่น โครงการลงทุนด้านโลจิสติกส์ และมาตรการที่จะทำให้ต้นทุนของภาคเอกชนอยู่ในขีดความสามารถที่จะแข่งขันได้ ตรงนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ได้เร่งดำเนินการแล้ว ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วตามการแถลงนโยบาย ก็ต้องมาติดตาม ประเมินดูว่าตอนนี้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ก็ต้องมาพิจารณาตามสถานการณ์ให้ชัดเจจนว่า จะต้องใส่อะไรเพิ่มเติม หรือต้องปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่

“การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องมานั่งถามกันทุกอาทิตย์ รัฐบาลมีหน้าที่ดูว่าตอนนี้แต่ละส่วนเดินไปถึงไหนแล้ว ส่วนสิ่งที่เราจะต้องกระตุ้น ในความหมายคือ ที่ผ่านมาตรงส่วนไหนอ่อนแอไปหน่อยก็จำเป็นต้องเข้าไปกระตุ้น ทำอะไรที่มันรวดเร็ว เพื่อให้คนที่อยู่สามารถฟื้นและแข็งแรงในการรองรับการเติบโตในระยะปานกลางและระยะยาวต่อไป ดังนั้นจะเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลจะทำต่อจากนี้ จะต้องมาคุยกันว่ามาตรการระยะสั้นมีอะไร เราต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจด้วยว่าช่วงนี้เป็นอย่างไร แล้วค่อยมาพิจารณาปรับเปลี่ยนตามรูปแบบและสถานการณ์ โดยมาตรการระยะสั้นนั้น รัฐบาลมีความพร้อมแล้ว บางเรื่องก็สามารถทำได้ทันที” นายพิชัย กล่าว

ส่วนมาตรการแก้ไขหนี้ครัวเรือนที่ได้มีการหารือกับสมาคมธนาคารไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น จะต้องมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปสุดท้ายอีกครั้ง โดยยอมรับว่าสถาบันการเงินอาจจะมีข้อเสนอให้มีการลดเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) จากปัจจุบันที่ 0.46% ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องมาคุยกันอีกที ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลังมองว่า ตราบใดที่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ก็พร้อมที่จะพิจารณา

“ผมรอเขามาสรุป ค่อยมาขันน็อต ขันสกรูกันอีกที โดยเรื่องที่แบงก์มีข้อเสนอให้ลดเงินนำส่ง FIDF นั้น ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในทางเลือกด้วย ซึ่งจะต้องมาตกลงกันบนโต๊ะ เอามาคุยกัน ผมจัดการได้ ถ้าเราเห็นด้วย เมื่อสรุปแล้วก็เอาเรื่องนี้ไปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผมมองว่าตราบใดที่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ เราก็โอเคอยู่แล้ว้ ส่วนจะมีการหารืออีกเมื่อไหร่ คงต้องรอข้อสรุปจากทุกส่วนก่อน ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องนั่งโต๊ะประชุมด้วย ผมถามได้จากทุกฝ่าย และเรื่องนี้ต้องเร่งทำให้จบโดยเร็วที่สุด” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ระบุ

สำหรับประเด็นเรื่องการเรื่องตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ หรือนางกมลา แฮรร์ริส เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ก็มีปัญหาทั้งนั้น เพราะนโยบายของทั้งคู่จะยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศตัวเองมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาสหรัฐมีบทบาทแบบ One Man Show แต่ปัจจุบันมีขั้วอื่น ๆ มา ดังนั้นหลังจากนี้สหรัฐจะต้องมีการปรับแนวนโยบายในการบริหารประเทศ ทำให้มองว่าไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ก็มีปัญหาทั้งหมด แต่ความหนัก และความแรงอาจจะไม่เท่ากัน

ทั้งนี้ ท่ามกลางความรุนแรงของปัญหาสงครามการค้า (เทรดวอร์) ที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น ภายหลังผลการเลือกตั้งนั้น ประเทศไทยจะต้องพิจารณาภาพรวมและปรับตัวให้ดี ซึ่งหากปรับตัวได้ดีก็อาจจะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าทำได้ค่อนข้างดี สะท้อนจากตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ประเทศไทยจะต้องพิจารณาใน 2 เรื่องสำคัญ คือ 1. ต้องพัฒนาและสนับสนุนให้เป็นนการผลิตโดยคนท้องถิ่น (Local Content) ซึ่งตรงนี้เป็นแนวทางที่ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับปรุงตัวเอง และ 2. โครงสร้างความเป็นเจ้าของการผลิตจะต้องเป็นของคนไทยด้วย ไม่ใช่แค่การนำเข้ามาประกอบใปนระเทศไทยเท่านั้น

ส่วนกรณีที่มีการประเมินว่าสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนจากการค้าอาจจะรุนแรงมากขึ้นนั้น มองว่า ปัจจุบันเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเริ่มทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตอนนี้ที่การส่งออกมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป หลายประเทศที่เคยใช้เรื่องอัตราเงินเฟ้อเป็นแกนหลักก็หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เพียงแต่จะดำเนินการแบบเปิดเผยหรือไม่ แต่หลักการคือจะต้องไม่เข้าไปแทรกแซงจนเกิดความผิดปกติ

“ไม่อยากให้มองเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนแค่ระยะสั้น ๆ แค่ 3-6 เดือน หรือ 1 ปี แต่อยากให้มองย้อนหลังแล้วก็มองไปข้างหน้าว่าเราจะไม่เสียเปรียบใช่หรือไม่ ถ้ามองสั้น ๆ บางช่วงเราอาจจะแข็งค่ากว่าคู่แข่ง และบางช่วงก็อาจจะอ่อนค่ากว่า การสู้แบบนี้ไม่ได้ อยากให้มองยาวขึ้นหน่อย เพราะจริง ๆ เรื่องเงินบาทจะแข็งหรืออ่อนค่า มี 2 ประเด็นสำคัญ คือ ถ้าอ่อนค่าก็ต้องไม่น้อยกว่าคู่แข่งเพราะเป็นประเทศส่งออกเหมือนกัน และ 2. ไม่ใช่แค่ค่าเงินบาทที่มีผลต่อดอลล่าร์ แต่เป็นเหมือนกันทุกประเทศ ดังนั้นเวลาค่าเงินต่างกันก็มีโอกาสที่จะเห็นเงินลงุทนไหลกลับประเทศเขา หรืออาจจะมาที่ประเทศเรา แต่วันนี้ไทยมีทั้งสภาพคล่อง มีทุนสำรองเพียงพอที่จะดูแลเรื่องเหล่านี้ได้ ดังนั้นคิดว่าปัญหาพวกนี้คงไม่เยอะ แต่ส่วนที่อยากเห็น คือ ความสามารถในการส่งออกมากกว่า” นายพิชัย ระบุ

 

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

สทนช. เผยแผนรับพายุคัลแมกี ระบายน้ําเขื่อนภูมิพล–สิริกิติ์อย่างรอบคอบ

8 พ.ย. 2568 16:01 139 views

ข่าว

GISTDA เผยภาพดาวเทียมชี้ชัดแนวท่วมลุ่มเจ้าพระยา

8 พ.ย. 2568 15:53 142 views

ข่าว

ประวัติศาสตร์ คนไทยนับหมื่นเข้าชมรอบชิงฟุตบอล 7 สีแน่นสนามศุภฯ

8 พ.ย. 2568 15:42 315 views

ข่าว

เจ็บอื้อ50ราย! เกิดระเบิดกลางมัสยิดช่วงละหมาดในกรุงจาการ์ตา

8 พ.ย. 2568 15:19 122 views

ข่าว

นักวิจัยระบุว่าอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นเป็นสาเหตุให้อาเซียนเผชิญกับพายุและไต้ฝุ่นรุนแรงทุกปี

8 พ.ย. 2568 15:14 174 views

ข่าว

ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’ บนพระที่นั่งดุสิตฯ ตั้งแต่ 9 พ.ย.

8 พ.ย. 2568 14:58 137 views

ข่าว

กิจกรรมสร้างการรับรู้ภายใต้แนวทางการขับเคลื่อนเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (Thailand Creative Cities Network 2025)

8 พ.ย. 2568 13:29 123 views

ข่าว

เปิดเส้นทาง ทัพเซลติกบางน้ําเปรี้ยว หมอนทองวิทยา พบกับ ทัพนกใหญ่จูเนียร์ อบจ.ชัยนาท ก่อนตัดสินแชมป์

8 พ.ย. 2568 12:10 367 views

ข่าว

ก่อแก้วเปิดเหตุผลเพื่อไทยส่งสัญญาณทอดไมตรีถึง “สนธิ ลิ้มทองกุล”

8 พ.ย. 2568 11:51 204 views

ข่าว

สมุทรปราการสุดอ่วม มวลน้ําทะเลหนุนไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน และถนนหลายสายในสมุทรปราการ จนกลายเป็นคลอง

8 พ.ย. 2568 11:41 236 views

ข่าว

กองทัพเรือตั้งวอร์รูมรับมือพายุ! มั่นใจพร้อมช่วยเหลือประชาชน 24 ชั่วโมง

8 พ.ย. 2568 11:34 382 views

ข่าว

นายกฯ สั่งเบรกขึ้นราคาน้ําตาล ย้ําคงเดิม 'ขาว 21 บาท' มีผลทันที

8 พ.ย. 2568 11:28 148 views

ข่าว

ระทึก! กระทิงป่าภูเขียวไล่ขวิด จนท.โชกเลือด บาดเจ็บทั้งตัว รอดหวุดหวิด

8 พ.ย. 2568 11:20 147 views

ข่าว

บุกจับ 'นิสิต สินธุไพร' พ่ออดีตรัฐมนตรี หลังหลบหนีคดีล้มอาเซียนซัมมิต

8 พ.ย. 2568 11:12 263 views

ข่าว

“อนุทิน” แถลงการณ์สยบข่าวชิงยุบสภาฯ รู้ตัวดีเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ยืนยันเดินหน้าตาม MOA

8 พ.ย. 2568 10:46 174 views

ข่าว

อยุธยาเจอแรงดันน้ํามหาศาล ผนังประตูน้ําคลองตานึ่งทรุด

8 พ.ย. 2568 10:05 291 views