×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ FM94 ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568

?>

คาดGDPไทยวูบ1% นโยบายทรัมป์ทุบส่งออกร่วง

 21 พ.ย. 2567 10:56 | 1560 view

 @pracha

Facebook X Share

คาดGDPไทยวูบ1% นโยบายทรัมป์ทุบส่งออกร่วง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ของสหรัฐอเมริกา ได้มีการประเมินว่าจากนโยบายของทรัมป์ “อเมริกันต้องมาก่อน” เรื่องหลักซึ่งประกอบไปด้วย 1.การกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการลดภาษีและกฎระเบียบเพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจ ใช้นโยบายการค้าเชิงรุกเพื่อสร้างงานและขยายเศรษฐกิจ 2.นโยบายการค้าระหว่างประเทศ เน้นนโยบายกีดกันทางการค้า ด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม 10% จากประเทศที่เกินดุลและจากจีน 60% 3.นโยบายปกป้องอุตสาหกรรมภายใน ผ่านภาษีนำเข้า ลดกฎระเบียบ ลดการพึ่งพาจีนในอุตสาหกรรมสำคัญ 4.นโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อม ที่สนับสนุนนโยบายพลังงานได้ทุกรูปแบบ ต่อต้านข้อตกลงปารีส และมองว่าการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศเป็นภาระ 5.นโยบายแรงงานและสวัสดิการสังคม เน้นการสร้างงานผ่านการลดภาษีและกฎระเบียบ จำกัดการเข้าเมืองเพื่อปกป้องตำแหน่งงานให้คนอเมริกัน 6.นโยบายการเงิน มุ่งลดความเป็นอิสระของธนาคารกลาง และต้องการให้ประธานาธิบดีมีอำนาจกำหนดอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ประเทศไทย มีดุลการค้ากับสหรัฐเกินดุลอยู่อันดับที่ 9 และจากข้อมูลย้อนหลังพบว่าไทยมีการเชื่อมโยงกับสหรัฐด้านการส่งออกสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2014 แม้จะลดลงบ้างในปี 2018 แต่จากนั้นก็สูงขึ้นมาตลอด ในขณะที่ไทยยังคงพึ่งพาตลาดสหรัฐเฉลี่ยอยู่ที่ 7.2% ซึ่งเป็นการพึ่งพาตลาดในประเทศเพียง 61% เท่านั้น พึ่งพาตลาดโลก 39% ดังนั้น เมื่อโลกแย่ สหรัฐแย่ ไทยก็แย่ไปด้วย โดยสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐสูงที่สุดคือ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มูลค่า 10,477 ล้านดอลลาร์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 9,502 ล้านดอลลาร์ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง 4,529 ล้านดอลลาร์

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่าหากในปี 2568 ทรัมป์ดำเนินตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ผลกระทบทางตรงที่จะเกิดกับไทยคือ 1.ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงบางส่วน เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากนโยบายการค้าแบบปกป้องจากการเก็บภาษีนำเข้า 2.การส่งออกของไทยไปยังสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหากมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าอีก 10% มูลค่าการค้าของไทยจะลดลง 3,106 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าที่ได้รับผลพวงไปด้วยคืออุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อาหารแปรรูปและเครื่องดื่มยานพาหนะโลหะสามัญและผลิตภัณฑ์จากโลหะ3.จะเห็นการลงทุนลดลงจากสหรัฐ หรืออาจมีการถอนการลงทุนออกไปบ้าง 4.GDP ของไทยมีแนวโน้มลดลงบางส่วนได้ เทียบกับช่วงก่อนเลือกตั้ง

ส่วนผลกระทบทางอ้อม เมื่อจีนไม่สามารถส่งออกไปสหรัฐได้ ชิ้นส่วนของไทยที่ส่งออกไปจีน เช่น ชิพเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในสินค้าต่างๆ จะลดลง มูลค่าการค้ากับจีนจะหายไป 49,105 ล้านบาทแน่นอนว่าเมื่อจีนได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอีก 60% มูลค่าการส่งออกจึงสูญหายไปถึง 350,660 ล้านดอลลาร์ สิ่งที่น่ากังวลคือ สินค้ากลุ่มที่จีนส่งออกไม่ได้จะทะลักเข้ามาที่ไทยแทนอย่างไรก็ตาม ก็ยังคงเป็นโอกาสตลาดส่งออกของไทยไปยังสหรัฐเป็นการทดแทนตลาดสินค้าจีน ทั้งเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง ของเล่น เกม และอุปกรณ์กีฬา สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า เครื่องเรือนและของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์

“หากดูจากผลกระทบแล้วจะเห็นว่า ผลทางตรงการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐจะลดลง108,714 ล้านบาท และทางอ้อมการส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานจีนและสหรัฐจะลดลง 49,105ล้านบาท การส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐและจีนรวมแล้วสูงถึง 160,472 ล้านบาท มีผลทำให้ GDP ไทยหายไป 1% ในปี 2568 บวกกับผลพวงของความเสี่ยงในเรื่องของสงครามระหว่างประเทศ รวมถึงปัจจัยจากประเทศคู่ค้าที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว หากปี 2568 หาก GDP โลกขยายตัว 2.7-3.2% ไทยจะส่งออกอยู่ที่ 2.8% มูลค่า 302,477 ล้านดอลลาร์ ตลาดสำคัญยังคงเป็น ยุโรป อินเดีย อเมริกา สินค้าเด่นคือเครื่องจักรกลผลไม้สด แช่แข็ง ยางและผลิตภัณฑ์ยาง แต่หากทรัมป์ขึ้นภาษี 10% ขึ้นภาษีจีน 60% ส่งออกไทยจะเหลือ 2.24% และหากขึ้นภาษีกับประเทศที่เกินดุล 15% ขึ้นภาษีจีน 60% ส่งออกไทยจะเหลือเพียง 0.72%”

ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการคือการอัดมาตรการด้านท่องเที่ยวและการบริโภค และต้องหาแต้มต่อของไทยจากการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ และไม่โดนกำแพงภาษีมากเกินไป เพื่อดึงการลงทุนเข้ามาแทนเวียดนาม ที่อาจถูกสหรัฐขึ้นภาษี 15-20% เพราะเกินดุลการค้ามากกว่าไทย

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

ถ้าคุณหลงใหลในโลกภาพยนตร์...นี่คือโอกาสที่จะได้เห็น “พัทยา” ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

6 พ.ย. 2568 20:32 85 views

ข่าว

เปิดตํานานเข็มกลัด "โรหิตามัสยา"

6 พ.ย. 2568 16:28 90 views

ข่าว

WENDY จัดคอนเสิร์ตเดี่ยว ครั้งแรกที่ไทย 

6 พ.ย. 2568 16:20 89 views

ข่าว

ZEROBASEONE เปิดฉากเวิลด์ทัวร์ [HERE&NOW] ประเทศไทยที่แรก

6 พ.ย. 2568 16:16 84 views

ข่าว

"ชัชชาติ" ลุย น้ําจ่อถล่มกรุง สั่งอุดจุดอ่อน 50 เขต ห้ามก่อสร้างทิ้งขยะลงท่อ

6 พ.ย. 2568 16:03 131 views

ข่าว

 C-130 อินเดีย รับตัวชาวอินเดียในแก๊งสแกมเมอร์กลับประเทศ

6 พ.ย. 2568 15:59 112 views

ข่าว

อย. เตือนภัย ! "กินรีทอง" โฆษณาเท็จ อ้างฆ่ามะเร็ง

6 พ.ย. 2568 15:48 179 views

ข่าว

"ธรรมนัส" ลั่นปีนี้ไร้น้ําท่วมซ้ํารอยปี 54 หลังนายกฯ สั่งเข้มปทุมธานี-สมุทรปราการ พร้อมดัน "ยาง 60 บาท-ปาล์ม 10 บาท"

6 พ.ย. 2568 15:45 161 views

ข่าว

10 จังหวัดภาคกลาง–กทม. เฝ้าระวังน้ําเจ้าพระยาเพิ่มสูง

6 พ.ย. 2568 15:45 115 views

ข่าว

รัฐบาลเตรียมออก พรก.ปราบ‘สแกมเมอร์’ คุมซิมบ็อกซ์ งัดยาแรงเช็กบิล‘บัญชีม้า’

6 พ.ย. 2568 15:38 145 views

ข่าว

“กิตติ์รัฐ” สวนหมัดคนแฉรายวัน ฝาก "อย่าทําร้ายบ้านตัวเอง"

6 พ.ย. 2568 14:49 141 views

ข่าว

ทนายลั่น! ฟ้องคนโยงทักษิณ

6 พ.ย. 2568 13:45 123 views

ข่าว

ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ชายแดน ห่วงใยกําลังพลแนวหน้า

6 พ.ย. 2568 13:34 369 views

ข่าว

อนุทิน ประกาศสงครามสแกมเมอร์!  ลงนาม MOU 15 หน่วยงาน สู้มิจฉาชีพ

6 พ.ย. 2568 13:26 216 views

ข่าว

‘อนุทิน’เตรียมลงพื้นที่‘บ้านหนองจาน’หลัง 17 พ.ย.นี้ ชี้เป็นของไทย แต่ต้องคุยให้ชัด

6 พ.ย. 2568 12:58 135 views

ข่าว

อุตุฯ เปิดศูนย์เฝ้าระวัง “คัลแมกี” พายุลูกแรกเข้าไทย 7 พ.ย.นี้ หลังมีแนวโน้มทําให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่

6 พ.ย. 2568 12:35 170 views