ศาลชั้นต้นกาญจนบุรี พิพากษาจำคุก“ครูปรีชา-เจ๊พัช-เจ๊บ้าบิ่น” ฐานเบิกความเท็จ คนละ2ปี ไม่รอลงอาญา สารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง

จากกรณีศาลชั้นต้นจังหวัดกาญจนบุรีนัดฟังคำพิพากษาคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่นและนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช ในข้อหาร่วมกันเบิกความเท็จ”เนื่องจากจำเลยทั้ง 3คน เคยเบิกความในชั้นไต่สวนฉุกเฉินในคดีแพ่งขออายัดเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่1 งวดประจำวันที่ 1พ.ย.60 หมายเลข 533726

ซึ่ง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นผู้นำสลาก จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30ล้านบาทไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนหน้านี้ครูปรีชา รวมทั้งเจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัช ได้ยอมรับสารภาพต่อศาลมาแล้วว่า เบิกความเท็จจริง ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 ต.ค.2567 วันดังกล่าว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ และนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาหมวดจรูญ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามที่ศาลได้นัดเอาไว้ ส่วนนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา จำเลย ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา แต่ได้มอบหมายให้ทนายความเดินทางมายื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไป ศาลท่านมีเมตตาต่อครูปรีชา จึงให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00น.ส่วนนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่นและนางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามที่ศาลนัดเอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่จำเลยทั้ง2ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอกลับคำให้การจากที่เคยยอมรับสารภาพไปแล้ว กลับมาเป็นขอปฏิเสธเพื่อขอสู้คดี แต่ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตจึงยกคำร้อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 12ธ.ค.67 นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช จำเลยได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามที่ศาลนัดเอาไว้ ส่วน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ (โจทก์) เดินทางมาด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปรับฟังคำพิพากษา โดยมอบหมายให้ทนายความ เป็นผู้เข้าไปฟังคำพิพากษาแทน ครั้งนี้ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษา ประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ทั้งนี้ นายสุชพงศ์ บุญเสริม ในฐานะทนายความของนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น (จำเลยที่ 2) และนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช (จำเลยที่ 3) ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ว่า วันนี้จำเลยทั้ง 3 ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลชั้นต้นตามที่ศาลได้นัดเอาไว้ ส่วนโจทก์คือหมวดจรูญ มาแต่ไม่ได้เข้าไปฟัง โดยได้มอบหมายให้ทนายความเป็นผู้เข้าไปฟังคำพิพากษาแทน ซึ่งศาลมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 คนมีความผิดตามคำฟ้องจริง จึงพิพากษาจำคุกคนละ2ปี โดยไม่รอลงอาญา จำเลยทั้ง 3ยอมรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ จำคุก 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา จำเลยทั้ง 3 ยังมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ ไปยังศาลอุทธรณ์ ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นอยู่ที่การพิจารณาของศาล

ด้าน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ กล่าวว่า การที่ตนไม่เข้าไปฟังคำพิพากษาภายในห้องบัลลังก์พิจารณาคดีเพราะไม่อยากเจอหน้ากับครูปรีชา รวมทั้งเจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัชด้วย แต่ได้มอบหมายให้ทนายความเข้าไปรับฟังแทน ซึ่งคำพิพากษาที่ออกมาก็รู้สึกพอใจ ส่วนคดีที่เหลืออยู่ตนพร้อมที่จะต่อสู้อย่างเต็มที่ ถึงแม้ทนายตั้ม จะไม่ได้มาก็ตาม แต่ยังมีทีมงานทนายความาดูแลคดีให้อยู่