แบงก์ชาติ-สมาคมธนาคารไทย แจงกรณีเงินหาย ยัน 3 แบงก์ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบแอปดูดเงิน  สั่งทุกแบงก์ยกระดับความปลอดภัยบัญชีนิติบุคคล หลังเกิดเหตุร้องเรียนเงินถูกโอนออกปริศนา

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ออกมาชี้แจงกรณีผู้เสียหายร้องเรียนถูกดูดเงินจากแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ 3 บัญชี หนึ่งในนั้นเป็นบัญชีนิติบุคคล  โดยเมื่อวานนี้ (30 ธ.ค.67)นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษก ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง  เบื้องต้นธนาคารเจ้าของบัญชีทั้ง 3 แห่งแจ้งว่าไม่พบธุรกรรมที่เกิดจากแอปดูดเงิน แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม

ธปท. สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยกระดับมาตรฐานการตรวจจับพฤติกรรมการโอนเงินที่ผิดปกติ และการแจ้งเตือนลูกค้า โดยเฉพาะบัญชีนิติบุคคลให้เข้มข้นขึ้น พร้อมยืนยันว่าหากพบความผิดพลาดจากธนาคาร ธนาคารจะต้องรับผิดชอบความเสียหาย

ด้านสมาคมธนาคารไทยชี้แจงว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นของธนาคารที่เกี่ยวข้อง 3 แห่ง ไม่พบพฤติกรรมและหลักฐานของแอปดูดเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร พร้อมยืนยันว่าโมบายแบงก์กิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัยสูง มีการป้องกันภัยเรื่องแอปดูดเงิน และมีการพัฒนายกระดับความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทต่อครั้ง และ 200,000 บาทต่อวัน สำหรับบัญชีบุคคลธรรมดา ยังคงต้องยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า ส่วนบัญชีนิติบุคคล ปัจจุบันไม่ได้มีการสแกนใบหน้า เนื่องจากการอนุมัติรายการมีความซับซ้อนและปลอดภัยอยู่แล้ว จากขั้นตอน Maker, Checker, และ Authorizer

อย่างไรก็ตาม สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกตระหนักถึงภัยทางการเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น และกำลังร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางป้องกันและจัดการภัยทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขณะนี้ธนาคารที่เกี่ยวข้องได้เร่งประสานให้ผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรายงานข้อเท็จจริงโดยละเอียด และเร่งสืบหาผู้กระทำผิดต่อไป