นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร นายกสมาคมธรรมศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ นายกสมาคมศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฯ ร่วมกันเป็นประธานในงานแถลงข่าวฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 75 ที่ห้องยูงทอง สมาคมธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568

สำหรับฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 75 นับเป็นการกลับมาจัดงานเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังจากที่ต้องหยุดพักไปด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยครั้งนี้ม.ธรรมศาสตร์รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ภายใต้แนวคิด “Dawn of Memory ความทรงจำเก่าในวันใหม่” กำหนดจัดขึ้นที่สนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 

นายอรรถพล กล่าวว่า พวกเราทุกคนมีความคิดถึงบรรยากาศฟุตบอลประเพณีฯอย่างมากจึงคุยกันเพื่อจัดงานนี้ขึ้นให้ได้ และจะต้องกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วย ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันจนสามารถจัดงานนี้ได้สำเร็จ ตอนนี้ทุกฝ่ายมีความพร้อมอย่างมาก ทั้งนักฟุตบอลรวมถึงขบวนพาเหรดและการแปรอักษร ซึ่งขออุบไว้ก่อนแต่ยิ่งใหญ่อลังการแน่นอน

ด้านนายชาญศิลป์ กล่าวว่า ในฐานะเจ้าภาพตอนนี้ความพร้อมเต็มร้อยแล้ว วัตถุประสงค์ในครั้งนี้คืออยากหวนคืนช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่ห่างเหินไปนาน อยากให้ทั้งสองสถาบันได้มีกิจกรรมร่วมกันเพื่อสานสัมพันธ์ไปสู่การทำงานร่วมกันในอนาคต

ส่วนของการแข่งขันฟุตบอลนั้น ทีมจุฬาฯ นำโดย “เสี่ยเซฟ” นายสุทธิพันธ์ วรรณวินเวศร์ รับหน้าที่ผู้จัดการทีม กับ “โค้ชแดง” ทรงยศ กลิ่นศรีสุข ขณะที่ผู้เล่นนำโดย “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย กับ สมปอง สอเหลบ อดีตกองหน้าทีมชาติไทย

เสี่ยเซฟ กล่าวว่า เราเว้นไป 5 ปี แต่ 3 ปีหลังสุดธรรมศาสตร์ชนะจุฬาฯไม่ได้เลย ดังนั้นคงมีการเตรียมทีมมาอย่างดี เห็นว่ารับนักศึกษาโควต้านักฟุตบอลปีละ 40-50 คน ส่วนจุฬาฯ รับปีละ 8 คนเท่านั้น ถึงเราจะทรัพยากรน้อยกว่า แต่ฟุตบอลเล่นกัน 11 คน ส่วนใหญ่เป็นนักเตะในไทยลีก 3 ซึ่งเพิ่งพบกันมาแล้วจุฬาฯ ชนะเอาฤกษ์เอาชัยมาแล้ว 2-1จุฬาฯ จะเล่นแบบมิตรภาพแต่ก็จริงจังในการแข่งขัน ส่วนถ้วยแชมป์ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ไหน ก็อยากให้มันอยู่ที่เดิมของมันต่อไป

ด้านม.ธรรมศาสตร์ นำทีมโดย “บิ๊กสมชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รับตำแหน่งผู้จัดการทีม โดยมี “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กับ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ร่วมกันเป็นทีมงานผู้ฝึกสอน

นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนตัวอยู่กับบอลประเพณีฯ มาตั้งแต่อยู่ปี 1 สิ่งที่ย้ำกับทุกคนคือต้องเล่นแบบมีสปิริต แม้ว่าตลอด 3 ครั้งหลังสุดม.ธรรมศาสตร์จะไม่ชนะ แต่อยากให้ย้อนดูสถิติเลยว่าใครชนะมากกว่ากัน“ตอนนี้ไม่กดดันเรื่องผลการแข่งขัน แค่กดดันว่าจะทำแท่นวางถ้วยแชมป์ทันหรือเปล่าเท่านั้น 
 
ด้าน “ลีซอ” ธีรเทพ ตัวแทนนักฟุตบอลจุฬาฯ กล่าวว่า เป้าหมายในครั้งนี้ก็อยากจะรักษาแชมป์ให้อยู่ที่เราอีกครั้ง หลังจากที่ช่วง 3 ครั้งหลังสุดเราได้แชมป์มา ครั้งนี้อาจจะต่างจากครั้งก่อนๆ ตรงเน้นที่นิสิตปัจจุบัน มีศิษย์เก่ามาแจมแค่เล็กน้อย ก็น่าจะเป็นสีสันที่สนุกขึ้นกว่าเดิม

“มันห่างไป 5 ปี ครั้งนี้น่าจะมีหลายอย่างที่น่าประทับใจ ทั้งกิจกรรมต่างๆ ขบวนพาเหรด หรือการแปรอักษรก็ตาม มันมีแพสชั่นที่อยากให้งานกลับมาอีกครั้ง ทุกคนเตรียมตัวอย่างดี ฉะนั้นพลาดไม่ได้เด็ดขาด เป็นงานบอลประเพณีฯที่น่าติดตามอย่างยิ่ง” ลีซอ กล่าวปิดท้าย

สำหรับฟุตบอลประเพณีฯ จัดขึ้นมา 74 ครั้ง ม.ธรรมศาสตร์ ชนะ 24 ครั้ง, จุฬาฯ ชนะ 18 ครั้ง เสมอ 32 ครั้ง โดยหนสุดท้ายที่ม.ธรรมศาสตร์ชนะต้องย้อนไปปี 2559 ที่ชนะ 5-1 ส่วนจุฬาฯ ชนะมา 2 ครั้งติดในปี 2562 และ 2563