×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568

?>

นักวิชาการอิสระ  “แก้วสรร” แพร่บทความ มาตรฐานการใช้อำนาจหน้าที่ ตาม ม.157 ชี้ชัดเหตุ “พิรงรอง” โทษคุก 2 ปี 

 9 ก.พ. 2568 16:14 | 448 view

 @supakitt

Facebook X Share

ถาม-ตอบ ทุกประเด็นคาใจ: ไขข้อสงสัยกรณี ทรูไอดี VS อ.พิรงรอง
ความขัดแย้งที่ต้องจับตา: ทรูไอดี กับ อ.พิรงรอง 

ช่วงที่ผ่านมา ประเด็นข้อพิพาทระหว่าง ทรูไอดี กับ อาจารย์พิรงรอง กลายเป็นเรื่องร้อนแรงในวงการสื่อและกฎหมาย ล่าสุด อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการด้านกฎหมาย ได้ออกมาวิเคราะห์และสรุปประเด็นสำคัญของคดีนี้ ผ่านแนวคิดเรื่อง มาตรฐานการใช้อำนาจหน้าที่ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของคดี ผ่านรูปแบบ ถาม-ตอบ กับ อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ เพื่อให้เข้าใจง่าย และเห็นภาพชัดเจนว่า กรณีนี้มีมิติใดที่น่าสนใจบ้าง และสะท้อนอะไรเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทย

ประเด็นที่ 1  : ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ถาม: กฎหมายมาตรา 157 คืออะไร?
ตอบ: ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
กรณีนี้ ทรูไอดีมองว่า อ.พิรงรอง ใช้อำนาจในฐานะประธานอนุกรรมการของ กสทช. โดยมิชอบ เพื่อก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจของตนโดยตรง

ประเด็นที่ 2 : กฎหมายมีช่องว่างจริงหรือ???
ถาม: ตามที่ TRUE ID อ้างว่าตนถูกอาจารย์พิรงรองใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้ตนเสียหายนั้น เขาเสนอบริการอะไรต่อผู้บริโภค
ตอบ: TRUE ID ทำแพลทฟอร์มที่เรียกว่า OTT (Over The Top) คือมีกล่องสัญญาณรวมเอารายการทั้งปวง ที่ทีวีดิจิทัล หรือเคเบิลทีวี ถ่ายทอดออกมา มารวมไว้เป็นบริการให้เราเปิดเข้าถึงได้ตลอดเวลา ทำให้เราไม่จำต้องเฝ้ารอดูหน้าจอตามเวลาที่ ทีวีเขาถ่ายทอดอีกต่อไป OTT แบบนี้ มีมากมาย มีทั้งที่ขายสมาชิกภาพ เช่น Netflix หรือเข้าถึงได้โดยเสรีเช่น TRUE ID
ถาม: กิจการ/บริการ OTT ไม่ต้องขออนุญาตหรือ ?
ตอบ: กิจการแบบ OTT นี้อาศัยอินเตอร์เน็ตเป็นถนนขนส่งข้อมูล ไม่ได้อาศัยคลื่นความถี่ ซึ่งกฎหมายไทยถือเป็นทรัพยากรของชาติ กฎหมาย กสทช.ปัจจุบันจึงยังไม่มีระบบใบอนุญาตมาควบคุมเหมือนทีวี ทำให้เถียงกันมาหลายปีแล้วว่ารัฐควรมีอำนาจควบคุมหรือไม่ อย่างไร

ถาม :  อาจารย์ว่าเราควรมีไหม
ตอบ :  อินเตอร์เน็ตมันเป็นทางหลวงของโลกไปแล้ว คุณจะให้ NETFLIX ที่เป็น OTT ชนิด ข้ามชาติข้ามโลก มาขออนุญาต กสทช.ไทย มันเป็นไปไม่ได้ อย่างเก่งบางรัฐเขาก็ทำได้แค่ห้ามถ่ายทอดรายการที่มีเนื้อหาต้องห้ามเท่านั้น

ถาม : เมื่อยังไม่มีกฎหมายแล้วมันเกิดคดีระหว่างทรูกับอาจารย์พิรงรองได้อย่างไร
ตอบ :  มีผู้มาร้องเรียนต่อ กสทช.ว่า OTT ของทรู มีโฆษณาคอยแทรกตอนเปลี่ยนรายการอยู่ด้วยทุกครั้ง ผู้ร้องอ้างว่าทำอย่างนี้ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค

ถาม :  อ้าว…เมื่อเขาต้องลงทุน เขาก็ต้องโฆษณาหารายได้เป็นธรรมดา ใจคอคุณจะต้องบริโภคฟรีทุกอย่างเลยหรือ ไม่ชอบก็ไปดูแพลทฟอร์มอื่นสิครับ
ตอบ : ในชั้นพิจารณาคำร้องทุกข์ TRUE ID นี้ ก็ยุติกันตรงจุดนี้เหมือนกันว่า เรายังไม่มีกฎหมายที่จะควบคุมเขา เรื่องก็เลยยุติไป แต่ปรากฏว่าอาจารย์พิรงรอง ไม่ยอมยุติ กลับนำปัญหานี้เข้ามาในอนุกรรมการใบอนุญาตโทรทัศน์ที่ตนเป็นประธาน เพื่อผลักดันจัดการกับ TRUE ID ให้ได้

ประเด็นที่ 3 : ยุทธการตลบหลัง!
ถาม : เขาไม่ใช่ทีวี แล้ว กสทช.จะไปจัดการเขาได้อย่างไร
ตอบ :  หลังจากถกเถียงกันอยู่นานในที่ประชุมอนุกรรมการกำกับใบอนุญาตโทรทัศน์ อาจารย์พิรงรองก็ผลักดันออกมาจนเป็นความเห็นได้ว่า แม้จะยังไม่มีกฎหมายคุม OTT แต่เราก็มีอำนาจตามกฎหมาย ทีวี เตือนไปยังทีวีทั้งหมดทั้ง ดิจิตอลและเคเบิ้ลได้ว่า คุณจะถ่ายทอดได้ก็แต่เฉพาะช่องทางที่เราอนุญาตไว้ และถ้ามีรายการประเภทบังคับให้ถ่ายทอด ( Must Carry) คุณก็จะให้มีโฆษณาปรากฏด้วยไม่ได้

ถาม : หมายความว่า จะจัดการให้พวกทีวี ต้องยอมปฏิเสธไม่ให้พวก OTT เอารายการของตนไปใส่กล่องสัญญาณ เช่นนั้นหรือ
ตอบ : ถูกต้องครับ เมื่อยังไม่มีกฎหมาย OTT เราก็ใช้กฎหมายทีวีนี่แหละ ไป“ตลบหลัง”บีบทีวีทั้งหลายให้ปฏิเสธไม่ให้ถ่ายทอดรายการของตนได้ ซึ่งหลังจากเถียงกันอยู่นานในที่สุดก็ออกมาเป็นหนังสือเตือนถึงทีวี ๑๒๗ เจ้า เมื่อ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ จนได้

ประเด็นที่ 4  : ล้มยักษ์!
ถาม :  เขาเตือนมาเป็นการทั่วไป ตามการตีความกฎหมายของเขา ถูกผิดอย่างไรก็ไปให้ศาลปกครองชี้ขาดได้ ทำไมทรูมาฟ้องเป็นคดีอาญาเอาถึงติดคุก ๒ ปีแบบนี้
ตอบ  : มันมีการออกหนังสือเตือนฉบับที่สองเตือนซ้ำมาอีกครั้ง เมื่อ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ครั้งนี้เติมความมาอีกว่า การถ่ายทอดทีวีผ่านช่องทางอื่นเช่น OTT นั้น OTT ดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตด้วย จากนั้นก็เลยระบุถึงTRUE ID โดยเจาะจงเลยว่า รายนี้ยังใม่ได้ขออนุญาต จึงเรียนมาให้ทุกท่านทราบและทำตามกฎหมายโดยเคร่งครัดด้วย
พอออกหนังสือเตือนเติมมาอย่างนี้แล้ว อาจารย์พิรงรอง ก็สั่งให้แก้ไขรายงานการประชุมเพิ่มความลงไปอีกว่าที่ประชุมมีมติให้ระบุ กรณี TRUE IDลงไปในคำเตือนด้วย

ถาม :  เห็นศาลระบุว่า รายงานส่วนที่เติมนี้เป็นความเท็จ คือที่ประชุมไม่ได้มีมติเช่นนั้นเลย
ตอบ :  ครับ คดียังได้ความจากเทปประชุมอีกนะครับว่า อาจารย์พิรงรอง พูดว่า งานนี้เราต้องเตียมตัว ”ล้มยักษ์” พอศาลถามว่า “ยักษ์”ในที่นี้คือใคร อาจารย์ก็รับกับศาลว่าตนหมายถึง TRUE ID เรื่องมันก็เลยชัดเจนต่อศาลว่า กสทช.คนนี้ใช้อำนาจหน้าที่ครั้งที่สองนี้ เพื่อมุ่งจัดการกับกล่องสัญญาณของทรูโดยเฉพาะ
ทรูเขาเห็นว่า อยู่ดีๆ มาหยิบเฉพาะกล่องสัญญาณของเขารายเดียว มาระบุว่ายังไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีว่า กสทช.ยังไม่มีประกาศรับอนุญาตกล่องสัญญาณ OTT เลย การระบุชื่อเขาขึ้นมาลอยๆ ในคำเตือนอย่างนี้ ยังผลทำให้ทีวีช่องต่างๆ พากันไม่ไว้วางใจที่จะตกลงกับ TRUE ID อีกต่อไป ทรูเขาก็เลยอ้างความเสียหายนี้มาฟ้อง ๑๕๗ ในที่สุด

ถาม :  เทปรายงานการประชุมที่ว่านี้ ฝ่ายต่อต้านเอ็นจีโอ ใน กสทช. ต้องส่งมาให้ TRUE แน่ๆ เลย
ตอบ : ผมพอรู้จักคนใน กสทช. อยู่บ้าง ได้เช็กกับเขาแล้วพบว่า เทปนี้ปรากฏขึ้นในศาลเองครับ เพราะชั้นแรกทรูฟ้อง ผอ.ที่ลงนามในหนังสือ เท่านั้น ผอ.คนนี้ก็เลยต้องเอาเทปมาแสดงต่อศาลว่า ตนทำตามคำสั่งของประธานที่สั่งไว้อย่างนี้ ทรูเลยหันมาฟ้องอาจารย์พิรงรองในที่สุด

ประเด็นที่ 5 :  “ความผิด” ตามคำพิพากษา
ถาม :  สรุปแล้วหนังสือเตือนฉบับนี้ ผิดพลาดจากกฎหมายอย่างไร
ตอบ :  ที่ชัดเป็นข้อแรก คือการตีความกฎหมายทีวีไปตลบหลังจัดการกับ OTT อย่างนี้มันมีประเด็นต้องเถียงกันได้อีกมากว่า ทำได้โดยชอบหรือไม่ ซึ่งเรื่องสำคัญอย่างนี้ต้องผ่านมติ กสทช.ก่อน อนุกรรมการที่คุมทีวีไม่มีอำนาจชี้ขาดเองเตือนเองได้เลย ตรงจุดนี้นับเป็นพฤติการณ์ล้ำหน้าชัดเจน

ถาม : แล้วการแต่งรายงานประชุมเป็นเท็จล่ะครับ
ตอบ : นั่นแสดงถึงความไม่สุจริต จะเอาให้ได้ดั่งใจตนให้จงได้ ทั้งๆ ที่ในที่ประชุมไม่ได้มีมติอย่างนั้น และค้านกันไว้ระงมว่าทำไม่ได้ ถูกฟ้องได้ ก็ไม่ยอมเชื่อ

ถาม :  แล้วใครยอมออกหนังสือเตือนเป็นทางการ ในนาม กสทช.
ตอบ : เป็นระดับ ผอ.เท่านั้น เพราะระดับรองเลขาฯ กสทช. ไม่ยอมลงนาม รู้ทัน พากันติดราชการต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดกันหมด มี ผอ.ใจถึง ยอมอยู่คนเดียว ท่านก็เลยโดนฟ้องไปด้วย

ถาม : ลำพังออกหนังสือเตือนโดยไม่ผ่านมติ กสทช. ไม่ผ่านมติอนุกรรมการ ก็ติดคุกผิด ๑๕๗ เลยหรือครับ
ตอบ : มันมีองค์ประกอบข้อสองมาสมทบว่า นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดเท่านั้น แต่มันมีเจตนาพิเศษยืนอยู่ในใจ ทำไปเพื่อจะให้ TRUE ID เขาเสียหาย การทำรายงานการประชุมเป็นเท็จ ดื้อดึงเติมคดี TRUE ID ลงไปในหนังสือเตือนฉบับที่สอง ด้วยคำรับว่าจะ “ล้มยักษ์”นั้น มันแสดงชัดเจนว่า งานนี้ไม่ใช่คำเตือนทั่วไปเพื่อแก้ปัญหาทั่วไป หากแต่มุ่งจะจัดการกับทรูเท่านั้นจริงๆ
แม้ภายหลังจากที่เกิดเป็นคดีแล้ว จะมีการเตือนเพิ่มเติมไปถึง OTT ของ AIS เพื่อให้ดูดีขึ้นเที่ยงธรรมขึ้นก็ตาม แต่นั่นก็สายเกินการไปเสียแล้ว

ถาม :  ตกลง อาจารย์เห็นว่า ศาลอาญาคดีทุจริตไม่ได้ใช้มาตรา ๑๕๗ โดยพร่ำเพื่อ อย่างที่เขาวิพากษ์กันใช่ไหมครับ
ตอบ :  “ตัวการกระทำ”มันนอกกฎหมายจริงๆ ส่วน “ตัวคน” ก็มีเจตนาทำไปเพื่อจะให้เขาเสียหายชัดเจน ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่เห็นทางจะตัดสินเป็นอย่างอื่นได้ ไม่ทราบจริงๆ ว่าใครเป็นที่ปรึกษากฎหมายของอาจารย์ พามาตายกลางถนนอย่างนี้ได้อย่างไร
คดีนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าคุณจะ ฝังใจคิดทำเพื่อมวลมหาผู้บริโภค จนเป็นความสุจริตฝังแน่นอยู่ในใจอย่างไรก็ตาม แต่ตำแหน่ง กสทช. ที่คุณเข้ามานั่งนั้น มันมีกรอบกฎหมายรอครอบหัวคุณอยู่เสมอว่า ตัวคุณนั้นไม่มีอำนาจในตัวเอง เรืองแสงด้วยตัวเองไม่ได้ อย่าทำอะไรที่เกินกฎหมายและต้องเที่ยงตรงเสมอภาคทุกครั้ง

ถาม : ความเสมอภาคที่ว่านี้ ถ้าจะเปรียบเทียบก็เข้าทำนองว่า นโยบายกวาดล้างซ่องของท่านผู้กำกับนั้น ถูกต้องก็จริง แต่ท่านจะประกาศออกมาเพื่อจ้องจับอยู่ซ่องเดียวไม่ได้ ใช่มั้ยครับ
ตอบ :  ถูกต้อง…ถ้ากฎหมายถูกเลือกใช้ได้ตามอำเภอใจ มันก็ไม่ใช่กฎหมายแล้ว ประเทศไทยเรานี้ มีปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาคภายใต้กฎหมายแบบนี้มากจริงๆ นะครับ
คุณดูสิ… ขนาดไม่ยอมติดคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด ก็ยังทำได้เลยเห็นไหม แล้วอย่างนี้บ้านเมืองเราจะไปรอดได้อย่างไร?????

 

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

อัศจรรย์แม่น้ำสองสี ปรากฏการณ์ปีละครั้งที่อุตรดิตถ์

17 พ.ค. 2568 12:08 29 views

ข่าว

เตือนภัยผ่านมือถือทั่วไทย! Cell Broadcast จ่อใช้งานกลางปี 68

17 พ.ค. 2568 11:53 46 views

ข่าว

"ชมวิถีชาวเล ยลเสน่ห์มานิ 2025" พม. ชูชาติพันธุ์ไทยอย่างเท่าเทียม

17 พ.ค. 2568 11:48 27 views

ข่าว

สินค้าเกษตรไทยยังได้รับความนิยม สร้างรายได้ต่อเนื่อง เผย มูลค่าส่งออกตลาดโลก -อาเซียน ปี68 (ม.ค.-มี.ค.)พุ่งกว่าแสนล้านบาท 

17 พ.ค. 2568 10:58 42 views

ข่าว

รัฐบาลคุมเข้มมาตรการปล่อยบั้งไฟใกล้รัศมีสนามบิน ประเพณีและความปลอดภัยต้องควบคู่กัน

17 พ.ค. 2568 10:50 39 views

ข่าว

กรมธุรกิจพลังงานเผยแนวโน้มพลังงาน เบนซินชะลอตัว EV มาแรง

17 พ.ค. 2568 10:12 53 views

ข่าว

สธ.เผยเหตุแพทย์ชาวใต้ไม่มีสิทธิ์จับสลากปีนี้

17 พ.ค. 2568 09:59 60 views

ข่าว

ตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง  พศ.จ่อออกกฎคุมเข้มเงินวัด 

17 พ.ค. 2568 09:56 80 views

ข่าว

กองทัพบกไทยกระชับสัมพันธ์มิตรประเทศในเวที LANPAC 2025

16 พ.ค. 2568 20:02 242 views

ข่าว

“พราน 21” คุมเข้มพื้นที่ ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า พื้นที่ อ.นาแห้ว และ อ.ปากชม จ.เลย 

16 พ.ค. 2568 16:43 176 views

ข่าว

รอง ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดนรอยต่อไทย – มาเลเซีย พร้อมให้กำลังใจทหาร บก.ควบคุมสุริโยทัย ในพื้นที่ จ.นราธิวาส

16 พ.ค. 2568 16:39 189 views

ข่าว

ฝากขัง 15 ผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง. ถล่ม ผัดแรกค้านประกัน

16 พ.ค. 2568 15:28 155 views

ข่าว

อนาคตสื่อไทยยุค AI ไม่ใช่แค่รอด แต่ต้องรุ่ง

16 พ.ค. 2568 15:19 287 views

ข่าว

พ่อแม่เยี่ยมทหารกองประจำการ ปมร้องถูกบังคับขับแกร็บ

16 พ.ค. 2568 15:16 188 views

ข่าว

พบระเบิดขว้างกลางเมือง EOD เก็บกู้ระเบิดได้ทัน

16 พ.ค. 2568 14:35 458 views

ข่าว

จับแล้ว “บอสบัญชา” หัวหน้าแก๊งหลอกลงทุน ETR

16 พ.ค. 2568 14:32 180 views