ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ สุวรรณภูมิ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี รวมตัวกัน เพื่อเตรียมออกเดินทาง ไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี 2025 ที่จะแข่งขันระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2568 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน

สำหรับ ทีมชาติไทย U20 ชุดนี้นำโดย ชนน์ชนก ชิดชอบ ผู้จัดการทีม พร้อมด้วย เอเมอร์สัน เปไรร่า หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ นักเตะทั้ง 23 คน 

ก่อนการเดินทาง เอเมอร์สัน เปไรร่า หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U20 กล่าวว่า "เรามีการเก็บตัวฝึกซ้อมกันมาอย่างต่อเนื่่อง และได้อุ่นเครื่องหลายนัดซึ่งผมคิดว่าเราทำผลงานได้ดี มีโอกาสมากมาย เราได้เจอกับจีน, อิรัก และ กาตาร์ ตอนนี้คือของจริง เราต้องทำให้ดีที่สุด เรารู้ว่างานไม่ง่าย เราต้องทำให้เต็มร้อยเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด"

"ผมรู้ดีว่างานของเรามันยากมาก กลุ่มของเราแข็งมาก แต่เราจำเป็นต้องสู้ ทำให้ออกมาดีที่สุด สำหรับขุมกำลังของทีมชุดนี้ผมและทีมงานสตาฟ พยายามวิเคราะห์ทุกอย่างให้ละเอียดที่สุด ทั้งการซ้อมและการอุ่นเครื่อง เราต้องเลือกคนที่ดีที่สุด คนที่ฟิตที่สุดเสมอ"

"สำหรับเคสของเอราวัณ ผมคิดว่าเราโชคร้ายมาก แต่ตอนนี้เราต้องโฟกัสกับนักเตะที่อยู่กับเราตรงนี้ เมื่อเขามาไม่ได้ ผมก็ต้องพยายามส่งคนที่ดีที่สุดพร้อมที่สุดลงสนามไป"

ด้านดุษฎี บูรณะจุฑานนท์ กองกลางทีมชาติไทย U20 กล่าวว่า "สภาพทีมตอนนี้ก็พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วครับ เราเตรียมทีมกันมานาน และมีความสัมพันธ์ในทีมที่ดี จากในรุ่น 17 ที่ผมเคยได้เจอเกาหลีใต้มา คิดว่าชุดนี้น่าจะแตกต่างจากชุดที่แล้ว แต่เขาก็น่าจะมีความแข็งแรง และความเร็วที่มากกว่าที่ผมเคยเจอ"

"ผมจะพยายามนำประสบการณ์ตรงนั้นมาช่วยทีมให้ได้มากที่สุด ผมไม่ได้รู้สึกหนักใจ แต่มองว่าเป็นความท้าทาย ในการเจอกับทีมขาประจำบอลโลก ทำให้เราได้รู้ศักยภาพของทีมชาติไทย ส่วนตัวผมมีความมั่นใจ เพราะเราก็เตรียมทีมและทำงานหนักมาสักพักแล้ว คิดว่าอาจจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ ผมดีใจที่ได้มีชื่อติดทีมชาติไทย ในทุกครั้ง รวมถึงครั้งนี้ด้วย"

โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย U20 รอบแบ่งกลุ่ม มีดังนี้

ญี่ปุ่น พบ ไทย 

14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 16.15 น.

สนามฝึกซ้อมฟุตบอลเยาวชนเซิ่นเจิ้น 1

ไทย พบ เกาหลีใต้ 

17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 16.15 น.

สนามฝึกซ้อมฟุตบอลเยาวชนเซิ่นเจิ้น 1

ซีเรีย พบ ไทย

20 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น.

สนามกีฬาศูนย์วัฒนธรรมและกีฬาหลงหัว

ทุกนัดถ่ายทอดสดทาง Facebook, Youtube : ช้างศึก และ T Sport 7