×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันที่ 4 พฤษภาคม 2568

?>

‘นักเรียน’เฮ! ศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนกฎกระทรวงเรื่อง‘ทรงผมนักเรียน’ ชี้จำกัดเสรีภาพ

 5 มี.ค. 2568 12:44 | 1241 view

 @pracha

Facebook X Share

‘นักเรียน’เฮ! ศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนกฎกระทรวงเรื่อง‘ทรงผมนักเรียน’ ชี้จำกัดเสรีภาพ-ไม่สอดคล้องพัฒนาการของอัตลักษณ์ทางเพศ-บุคลิกภาพเด็กตามช่วงวัย

5 มีนาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุด เผยแพร่คำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ ฟร.24/2563 เพิกถอนกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ซึ่งเป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนที่ไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียน

ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515 ซึ่งกำหนดว่า การแต่งกาย และความประพฤติดังต่อไปนี้ ถือว่าไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียน นักเรียนชายดัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้าง และด้านหลังยาวเลยตีนผม หรือไว้หนวดไว้เครา นักเรียนหญิงดัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากทางโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ผมยาวเกินกว่านั้น ก็ให้รวบให้เรียบร้อย นักเรียนใช้เครื่องสำอางหรือสิ่งปลอมเพื่อการเสริมสวยนั้น มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับทรงผมและการใช้เครื่องสำอางของนักเรียน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา

กรณีถือได้ว่าเป็นกฎที่มีผลเป็นการจำกัดเสรีภาพในร่างกายของบุคคลผู้มีสถานะเป็นนักเรียน โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515 ซึ่งเป็นฐานอำนาจในการออกกฎกระทรวงดังกล่าว ระบุเหตุผลว่า เพื่อให้นักเรียนและนักศึกษาเป็นเยาวชนที่กำลังสร้างสมคุณสมบัติทั้งในด้านความรู้ ความคิดและคุณธรรม พร้อมที่จะรับมรดกตกทอดจากผู้ใหญ่เป็นพลเมืองดีมีประโยชน์แก่ประเทศชาติในอนาคต นักเรียนและนักศึกษาควรจะได้รับการอบรมดูแลใกล้ชิดจากบิดามารดา ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ เพื่อเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครู อยู่ในโอวาทคำสั่งสอน รวมทั้งอยู่ในระเบียบประเพณีและกฎหมายของบ้านเมือง

เมื่อต่อมา ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ปรากฏหลักการและเหตุผล ในการประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ว่า ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515 กำหนดสาระสำคัญและรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็ก ไม่เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน โดยมาตรา 22 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว บัญญัติว่า การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ให้คำนึงถึงประโยชน์ของเด็กเป็นสำคัญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง (1) บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก และกฎกระทรวงกำหนดแนวทางการพิจารณาว่าการกระทำใดเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเด็ก พ.ศ.2549 กำหนดว่า การกระทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กให้พิจารณาถึง (1) ลักษณะเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน (2) ความเหมาะสม ความต้องการ และความจำเป็นของเด็ก

ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า เจตนารมณ์ของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2515 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518 ลงวันที่ 6 มกราคม 2518) ที่กำหนดข้อห้ามสำหรับนักเรียนเกี่ยวกับการไว้ทรงผมและการใช้เครื่องสำอาง ระบุวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นพลเมืองดีเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ การเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา การเป็นศิษย์ที่ดีของครู โดยกำหนดให้อยู่ในคำสั่งสอนและโอวาทของผู้ใหญ่และระเบียบประเพณี โดยมิได้คำนึงถึงสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และพัฒนาการของอัตลักษณ์และบุคลิกภาพของเด็กในแต่ละช่วงวัยจากช่วงวัยเด็กเล็ก อายุ 6-7 ปี จนถึงช่วงวัยรุ่นอายุ 13-16 ปี ซึ่งมีสถานะนักเรียนที่อยู่ในบังคับของกฎกระทรวงดังกล่าว

กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่าประกาศของคณะปฏิวัติฯ และกฎกระทรวงที่พิพาท เป็นกฎที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ และยังอาจมีการบังคับใช้กฎที่พิพาทนั้นอย่างเคร่งครัดจนมีผลร้ายต่อจิตใจของเด็กที่มีความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศ อันเป็นการขัดกับหลักการและบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 จึงต้องถือว่าเป็นกฎที่ถูกยกเลิกไปโดยมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เนื่องจากมีเจตนารมณ์ที่ขัดกับหลักการและบทบัญญัติมาตรา 22 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว

อีกทั้งตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน ได้กำหนดว่า นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2562 ซึ่งแม้จะมิได้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับทรงผมนักเรียนไว้อย่างเฉพาะเจาะจง แต่โรงเรียนหรือสถานศึกษาอาจกำหนดระเบียบเกี่ยวกับการไว้ทรงผมนักเรียนไว้เป็นองค์ประกอบย่อยของข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งกาย โดยพิจารณาให้สอดคล้องตามหลักการเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กและคำนึงถึงการพัฒนาอัตลักษณ์และบุคลิกภาพที่เหมาะสมตามช่วงอายุของนักเรียนได้

ประกอบกับเมื่อพิจารณาเนื้อหาของกฎกระทรวงฉบับที่พิพาท ซึ่งกำหนดลักษณะทรงผมของนักเรียน โดยมิได้คำนึงถึงพัฒนาการของบุคลิกภาพของเด็กในแต่ละช่วงวัยและความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคล จึงมีผลเป็นการจำกัดเสรีภาพในร่างกายของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ ซึ่งกระทำมิได้ตามมาตรา 26 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่บัญญัติว่าการตรากฎหมายที่มีผลเป็นการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลต้องไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุและจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลมิได้ กฎกระทรวงดังกล่าวจึงเป็นกฎที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ

พิพากษาให้เพิกถอนกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ลงวันที่ 6 มกราคม 2518 ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515 นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คำพิพากษาในวันนี้สืบเนื่องจาก ตัวแทนนักเรียน กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท พร้อมด้วยทนายความเข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อปี 2563 เพื่อขอให้เพิกถอนกฎระเบียบเกี่ยวกับการไว้ผมทรงผมของนักเรียน โดยมีกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และขอให้ศาลปกครองพิจารณารับฟ้องและมีคำสั่งเพิกถอนกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2518 และขอให้เพิกถอนระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

‘อนุทิน’ เป็นปลื้ม! ถ่ายภาพร่วมเฟรม ‘ลุงตู่-ภริยา’ เข้ากราบถวายบังคมพระบรมรูป ‘สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช’ เนื่องในวันฉัตรมงคล 2568

4 พ.ค. 2568 16:11 79 views

ข่าว

ปัญหารุมเร้า!‘ภาวะผู้นำ’อ่อนแอ ทำประชาชนอ่อนล้า นำประเทศอ่อนด้อย

4 พ.ค. 2568 16:09 87 views

ข่าว

แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่สะบ้าย้อย ย้ำรัฐไม่ทอดทิ้งประชาชน

4 พ.ค. 2568 14:19 100 views

ข่าว

กองทัพบกจัดกิจกรรมวันฉัตรมงคล 2568

4 พ.ค. 2568 13:24 136 views

ข่าว

กสม.ประณามเหตุรุนแรงนราธิวาส เด็ก-คนชรา-ผู้พิการสังเวยชีวิต

4 พ.ค. 2568 13:08 137 views

ข่าว

PAP คว้าชัยเลือกตั้งสิงคโปร์ สมัยที่ 14 ติดต่อกัน

4 พ.ค. 2568 12:11 148 views

ข่าว

กอ.รมน.โต้ข่าวลวง ไม่มีคำสั่งย้ายครูไทยพุทธจากชายแดนใต้

4 พ.ค. 2568 12:04 117 views

ข่าว

คุมเข้มแอนแทรกซ์มุกดาหาร! ปศุสัตว์ปิดพื้นที่-ฉีดวัคซีน 1,200 ตัว

4 พ.ค. 2568 12:02 145 views

ข่าว

ทหารพรานนครพนม ซุ่มยึดยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด

4 พ.ค. 2568 11:58 211 views

ข่าว

โพลชี้ ปัญหาชายแดนใต้ยังไม่คลี่คลาย 

4 พ.ค. 2568 11:54 101 views

ข่าว

อิ๊งค์ แจงอีก คอมเพล็กซ์ ไม่ได้เน้นกาสิโน หวังบูมท่องเที่ยว ย้ำคนรวยเท่านั้นเล่นพนันได้

4 พ.ค. 2568 11:52 108 views

ข่าว

นายกฯอิ๊งค์ ยันมีดีลลับถกมะกัน แก้ปัญหาภาษีทรัมป์ ไม่หลุดกรอบแน่ ขอปชช.สบายใจ

4 พ.ค. 2568 11:47 135 views

ข่าว

นายกฯ อิ๊งค์ ยัน ก.ค.นี้ ‘เซลล์บรอดแคสต์’ มาแน่ ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวแม่นยำ รวดเร็วสุด

4 พ.ค. 2568 11:45 134 views

ข่าว

ใต้รับมือฝนหนัก! ไทยตอนบนร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนอง

4 พ.ค. 2568 11:40 166 views

ข่าว

กทม.เร่งเต็มสูบค้นหาผู้สูญหายยันขอกู้จนครบ

4 พ.ค. 2568 11:37 123 views

ข่าว

‘ในหลวง-พระราชินี’เสด็จฯในการพระราชพิธีฉัตรมงคล พุทธศักราช 2568 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง

4 พ.ค. 2568 11:30 132 views