4 นักบิด ยามาฮ่า เผยทิศทางบวกการพัฒนารถแข่ง M1 หลังผ่าน โมโตจีพี 2025 สนามแรก ชี้เก็บข้อมูลสำคัญจากเรซสุดหินที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ เชื่อมีความคืบหน้าในสนามต่อไปที่ อาร์เจนติน่า

ศึก พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ผ่านการแข่งขันรอบเมนกรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์- 2 มีนาคมที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นหนึ่งในสุดสัปดาห์ที่มีอากาศร้อนสุดๆ ส่งผลต่อนักแข่งทุกคนอย่างมาก

ขณะที่ทัพนักบิดยามาฮ่า ที่อยู่ระหว่างการพัฒนารถแข่ง M1 ก็ต้องเจอความยากลำบากเช่นกัน โดยผลปรากฏว่า แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนหมายเลข 43 จาก พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี จบเรซในอันดับ 11 ตามด้วยทีมเมทชาวโปรตุกีสหมายเลข 88 อย่าง มิเกล โอลิเวียร่า ในอันดับ 14

ส่วน “เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกปี 2021 เจ้าของหมายเลข 20 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี เจอปัญหายางช่วงต้นเรซจนรูดลงไปถึงอันดับ 20 ก่อนจะไล่บี้ขึ้นมาคว้าอันดับ 15 ตามด้วย อเล็กซ์ รินส์ ทีมเมทชาวสแปนิชหมายเลข 42 ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 17

กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “เรามีปัญหาการยึดเกาะตั้งแต่ต้นเรซ นั่นทำให้ช่วงแรกของการแข่งขันผมทำได้เพียงขี่เพื่อวอร์มยางให้อุ่นขึ้นเท่านั้น ผมไม่สามารถเค้นได้ในรอบแรก เพราะรถแข่งของเราสไลด์นั่นทำให้เสียอันดับไปเยอะมาก โชคไม่ดีที่หลังจากนั้นเราไม่มีความเร็วเพียงพอที่จะสร้างเรซที่ดี มันคือการแข่งขันที่ร้อนมากโดยเฉพาะการเกาะอยู่ในกลุ่มหลัง เอาละนั่นคือหนึ่งในเรซที่ยากของเรา มาดูกันว่าจะทำอะไรได้บ้างที่ อาร์เจนติน่า”

รินส์ เปิดเผยว่า “แน่นอนว่ามันคือเรซที่ต้องใช้ร่างกายเพื่อจัดการกับความร้อน จริง ๆ ก็ตั้งแต่วันเสาร์แล้วที่ผมสัมผัสได้นิดหน่อย แต่วันนี้ (วันอาทิตย์) นับตั้งแต่รอบที่ 7 เป็นต้นไป ผมไม่สามารถควบคุมมันได้เลย ขาผมถูกลวก แต่ยังไงก็ตามศักยภาพความเร็วในโค้งของเราค่อนข้างดี มันคือก้าวเล็กๆ ของการยกระดับ เราจะเก็บข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากสนามแรก และพยายามปรับปรุงรถแข่งให้ได้”

มิลเลอร์ กล่าวว่า “โดยรวมแล้วมันเป็นวันที่ดี แต่ผมมีปัญหาเล็กน้อยกับแฟริ่งในรอบที่ 8 นั่นทำให้ไม่สามารถเกาะไปกับกลุ่มหน้าได้ โชคไม่ดีที่คลิปล็อกหนึ่งตัวถูกคลายขึ้นมา และหลังจากนั้นแฟริ่งทั้งหมดก็เหมือนจะหลุดออก อย่างที่คุณทราบปัจจุบันแอโรไดนามิกส์มีผลต่อการแข่งขันอย่างมาก ผมเริ่มติดปัญหาในการเข้าโค้งและเลี้ยงความเร็ว โดยเฉพาะโค้ง 4-5 ซึ่งเป็นจุดแข็งของผมเอง ผมเสียอันดับไปนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วเรามีสุดสัปดาห์ที่เป็นบวก เราโฟกัสไปที่การสร้างพื้นฐานรถแข่งที่มั่นคง และจะทำงานหนักต่อไป”

โอลิเวียร่า เปิดเผยว่า “ตอนนั้นผมคาดว่ามันจะเป็นเรซที่ยาวนานและยากมาก และท้ายที่สุดเราก็เจอสถานการณ์แบบนั้น มันร้อนสุดๆ สำหรับเราทุกคน ซึ่งเป็นเรซที่จะต้องบริหารจัดการเรื่องยาง นั่นทำให้เราเลือกยางที่แตกต่างออกไป แต่ผมก็พยายามควบคุมการใช้ยางตั้งแต่เริ่มต้นเรซ เพราะเจอปัญหากับยางหน้าหนักมาก ทำให้ไม่สามารถเลี้ยวรถได้ ผมบานออกแทบทุกโค้ง จากนั้นยางหลังก็เริ่มดีขึ้นและพอยางเริ่มหมด ผมก็ต้องพยายามจัดการกับมันและสามารถไล่เก็บอันดับคืนมาได้บ้าง โดยรวมแล้วถือเป็นผลลัพธ์ที่ยอมรับได้ เรารู้ดีว่าต้องทำหน้าที่เก็บข้อมูลสำคัญเพื่อปรับปรุงรถแข่ง ข้อมูลที่ได้จากรถทั้ง 4 คัน จะถูกแบ่งปันกัน ผมเชื่อว่าเราได้ทำทุกอย่างเพื่อสร้างความคืบหน้า และนั่นคือสิ่งที่เราโฟกัสในตอนนี้”

ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2025 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 มีนาคมนี้ ที่ เทอร์มาส เดอร์ ริโอ ฮอนโด้ ประเทศอาร์เจนติน่า ในรายการ กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนติน่า