ลาลีกาเปิดกิจกรรมพิเศษในไทยก่อนศึกดาร์บีแมตช์เซบีญา เดินหน้ารณรงค์ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในแคมเปญ “LALIGA VS Racism” พร้อมนำ Big Data และอินฟลูเอนเซอร์เสมือนร่วมสื่อสารกับแฟนบอลชาวไทย

กรุงเทพฯ – 26 มีนาคม 2568
ก่อนเกมดาร์บีแมตช์สุดร้อนแรงแห่งเมืองเซบีญาจะระเบิดความมันส์ในวันอาทิตย์นี้ ลาลีกา ประเทศสเปน จัดกิจกรรม “Laliga Big Match Meeting & Football Friendly Match” ที่ Super Star Arena ลาดพร้าว 80 โดยมี นายอนรรฆ ณ บางช้าง ตัวแทนของลาลีกาในประเทศไทย เป็นผู้กล่าวเปิดงาน พร้อมตอกย้ำแคมเปญ “LALIGA VS Racism” ที่เดินหน้ามาเป็นปีที่ 4 อย่างต่อเนื่อง

ภายในงานประกอบด้วยแมตช์ฟุตบอลกระชับมิตรระหว่างองค์กรพันธมิตร สื่อมวลชน และอินฟลูเอนเซอร์ไทย เพื่อส่งเสริมความสามัคคีผ่านกีฬา พร้อมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ความรุนแรง และการเกลียดชังทุกรูปแบบในวงการฟุตบอล

กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของลาลีกาในการเข้าถึงแฟนบอลในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดเชิงกลยุทธ์ที่มีแฟนบอลลาลีกาเหนียวแน่นมายาวนาน

ในปีนี้ ลาลีกา ผนึกกำลังกับ EA SPORTS และศิลปินชาวสเปน Suso33 ออกแบบเสื้อแข่งขันพิเศษและลูกฟุตบอลเฉพาะกิจสำหรับแคมเปญ VS RACISM ซึ่งจะถูกใช้ในแมตช์เดย์ที่ 29 รวมถึงเกมแห่งศักดิ์ศรี “ElGran Derbi de Sevilla” ระหว่าง เรอัล เบติส กับ เซบีญา คืนวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคมนี้ เวลา 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดผ่าน beIN Sports

ไฮไลต์ภายในงานยังรวมถึงการปรากฏตัวของ ALEX อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงจากลาลีกา ที่กล่าวทักทายแฟนบอลไทยผ่านวิดีโอ พร้อมนำเสนอข้อมูลแมตช์เบติส-เซบีญาอย่างลึกซึ้งจากแพลตฟอร์ม “Mediacoach” ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเทคโนโลยีขั้นสูงจาก Microsoft

ทั้งนี้ สนามฟุตบอลของลาลีกาในสเปน ได้ติดตั้งกล้องมากถึง 19 ตัวต่อสนาม เพื่อเก็บข้อมูลจุดเคลื่อนไหวหลายล้านจุดในการแข่งขัน นำมาวิเคราะห์ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญของลาลีกา เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่สมบูรณ์แบบและแม่นยำให้กับแฟนบอลทั่วโลก รวมถึงแฟนบอลชาวไทย

นายอนรรฆ ณ บางช้าง กล่าวเสริมว่า

“เรามีความสุขมากที่ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นในประเทศไทย ดาร์บีแมตช์เมืองเซบีญาเป็นเกมที่แฟนบอลทั่วโลกจับตามอง และเราอยากให้แฟนบอลชาวไทยได้มีส่วนร่วมไม่เฉพาะในสนามฟุตบอล แต่รวมถึงการแสดงพลังสนับสนุนแคมเปญ VS RACISM ไปด้วยกัน เราหวังว่ากิจกรรมแบบนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในอนาคต”

กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงเชื่อมโยงแฟนบอลไทยกับฟุตบอลลาลีกาเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำจุดยืนของวงการฟุตบอลที่ต้อง “ไร้ความเกลียดชัง” และ “เคารพในความแตกต่าง” อย่างแท้จริง

#LALIGAinThailand #VSRacism #ElGranDerbi #LALIGA2025 #NoToRacism #ฟุตบอลสเปน #BetisVsSevilla #LALIGAxThailand #Mediacoach #ALEXVirtualInfluencer #บอลลาลีกา #ดาร์บีแมตช์เซบีญา