ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรตามข้อเสนอของกฤษฎีกา เตรียมส่งสภาฯ พิจารณาต่อ ย้ำเน้นลงทุนเพื่อการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ กาสิโนไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมด พร้อมกลไกคุมเข้มป้องกันผลกระทบสังคม

ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 12 ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ตามข้อเสนอของ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และเตรียมส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับหลักการและแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาต่อไป

สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ คือการสร้างกลไกกำกับดูแล “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” อย่างรัดกุม เพื่อส่งเสริมการลงทุน การท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มีการควบคุม “กาสิโน” ไม่ให้เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมด ของสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อป้องกันผลกระทบในเชิงสังคม

12 ประเด็นสำคัญ ที่ได้รับการปรับปรุงจากกฤษฎีกา ได้แก่ กำหนด ผู้รักษาการร่วม เป็นนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย , 
ขยายอำนาจ คณะกรรมการนโยบาย ให้มีบทบาทในระดับเสนอแนะต่อ ครม. , แก้กลไกแต่งตั้ง ผู้อำนวยการ และเพิ่มเกณฑ์กำหนดพื้นที่-จำนวนใบอนุญาต  และ เพิ่มข้อกำหนดควบคุม กาสิโน เช่น  มีมาตรการป้องกันฟอกเงิน  ระบบควบคุมการดำเนินงาน   ผู้เล่นชาวไทยต้องมีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท 6 เดือน  ห้ามจ้าง-ให้ผลประโยชน์เพื่อเพิ่มผู้เล่น   เพิ่มบทลงโทษกรณีละเมิด รวมถึงการถ่ายทอดพนันผ่านระบบออนไลน์  นอกจากนี้ ยังเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนถึง 4 ครั้ง ล่าสุดมีผู้แสดงความเห็นมากกว่า 71,000 ราย โดย ร้อยละ 80 เห็นด้วยกับการออกกฎหมายฉบับนี้ สะท้อนความต้องการให้เกิดการจัดระเบียบธุรกิจบันเทิงครบวงจรภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจน

นายจิรายุ ย้ำว่า รัฐบาลจะเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ. นี้ด้วยความรอบคอบ โดยเน้นการลงทุนด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมากกว่าการเปิดเสรีการพนัน พร้อมคำนึงถึงผลกระทบทางสังคม และการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ