ฝุ่นคลุ้งหนาทึบ! แม่ฮ่องสอนเผชิญวิกฤตหมอกควันหนักสุดในภาคเหนือ PM2.5 พุ่งเกือบ 10 เท่า จุดความร้อนทะลุ 300 จุด ทางจังหวัดเร่งฉีดพ่นน้ำ แจกหน้ากาก N95 ลดผลกระทบสุขภาพ
สถานการณ์ฝุ่นควันในภาคเหนือเข้าสู่ระดับวิกฤติ โดยเฉพาะในจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งเช้าวันนี้ (31 มี.ค.) ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนาทึบทั่วทั้งเมือง โดยกรมควบคุมมลพิษรายงานค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงถึง 305 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกือบ 10 เท่าของค่ามาตรฐาน (37.5 ไมโครกรัม/ลบ.ม.) ส่งผลให้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) พุ่งทะลุ 431 เข้าสู่ระดับสีแดง "อันตรายต่อสุขภาพ" ทุกสถานีตรวจวัดในพื้นที่

สาเหตุหลักมาจากจุดความร้อนที่พบมากถึง 315 จุด กระจายตัวในเขตป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ของอำเภอเมือง และอำเภอแม่สะเรียง รวมถึงสภาพภูมิประเทศที่เป็นแอ่งกระทะ และกระแสลมนิ่ง ทำให้ฝุ่นควันไม่กระจายตัวออก ส่งผลต่อทัศนวิสัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง

บริเวณจุดชมวิวบนดอยกองมู ที่เคยสามารถมองเห็นตัวเมืองได้อย่างชัดเจน เวลานี้ถูกหมอกควันบดบังจนมองไม่เห็นแม้แต่ตัวอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนเร่งระดมกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตระเวนฉีดพ่นละอองน้ำด้วยรถบรรทุกน้ำสะอาด เพื่อลดระดับฝุ่นในอากาศ และแจกหน้ากากอนามัย N95 จำนวน 2,500 ชิ้น ให้กับประชาชนในพื้นที่ชุมชนและตลาด เพื่อป้องกันอันตรายทางสุขภาพ

พร้อมกันนี้มีการขอความร่วมมือประชาชนให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ หากมีอาการเจ็บป่วยจากฝุ่นควัน เช่น ไอ เจ็บคอ หายใจติดขัด ขอให้รีบพบแพทย์ทันที

สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง และต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในช่วงหลายวันข้างหน้า