วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2568
2 เม.ย. 2568 09:42 | 1169 view
@pracha
‘พิชัย’ ชี้ ‘ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10’ อาจเข้าข่ายนอมินี
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า จากการลงพื้นที่ของ ร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ พบความผิดปกติหลายประการ เช่น เมื่อไปตรวจสอบสถานที่ตั้งของบริษัท ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดรับสายโทรศัพท์หรือกดกริ่งที่อาคาร ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ
ทั้งนี้ คณะทำงานที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน จะประชุมในช่วงบ่ายวันที่ 1 เมษายน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด โดยพบว่ามีสิ่งผิดปกติค่อนข้างมาก และในวันที่ 4 เมษายน จะนำผลตรวจสอบเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งตนเป็นประธาน
“มีความผิดปกติค่อนข้างมาก และเครือข่ายของบริษัทนี้ค่อนข้างกว้าง เราจะต้องตรวจสอบให้รอบด้าน นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด ไม่มีการฮั้ว ไม่มีการปกปิด โปร่งใสชัดเจน และจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด โดยจะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด รวมถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายนอมินีสูง หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ทั้งผู้ถือหุ้นคนไทยและต่างชาติ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัย กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ถือหุ้น 10% ของบริษัท ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่กลับมีรถยนต์ใช้งาน ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจาก 10% ของทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท เท่ากับ 100 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ที่ถือหุ้นระดับนี้ควรมีฐานะที่มั่นคง กระทรวงพาณิชย์จึงได้รวบรวมข้อมูลและส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำผิด จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา
ด้านนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้กำชับให้คณะทำงานตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 อย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์จะเป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และกรมสรรพากร โดยตั้งเป้าสรุปผลภายใน 7 วัน โดยเบื้องต้น พบว่ากรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นอีก 13 แห่ง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าบริษัทเหล่านี้รับงานจากที่ใดบ้าง และยังมีการดำเนินกิจการอยู่หรือไม่
“แม้ว่าบริษัทนี้จะมีผู้ถือหุ้นชาวไทย แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเข้าข่ายนอมินีหรือไม่ จึงได้ประสานกับกรมที่ดินเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ตั้งบริษัท รวมถึงการเปลี่ยนแปลงชื่อกรรมสิทธิ์ที่ดิน” นายนภินทรกล่าว พร้อมย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าตรวจสอบบริษัทต่างชาติที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย”นายนภินทรกล่าว
ข่าว
24 ต.ค. 2568 14:17 14 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 14:09 15 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 13:55 32 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 13:48 19 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 13:40 12 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 13:30 16 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 13:22 13 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 12:44 53 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 12:20 48 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 12:09 40 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 11:20 84 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 09:48 94 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 09:41 91 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 09:40 73 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 09:23 89 views
ข่าว
24 ต.ค. 2568 09:11 81 views