นายกรัฐมนตรีแถลงท่าทีไทยต่อสงครามการค้าสหรัฐฯ ส่งรัฐมนตรีคลังเจรจาวอชิงตันสัปดาห์หน้า ย้ำไทยคือพันธมิตรเชื่อถือได้ พร้อมสรุปมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการหลังเจอมาตรการขึ้นภาษี

"ไทยไม่ใช่แค่ผู้ส่งออก...แต่คือพันธมิตรระยะยาวที่สหรัฐฯเชื่อถือได้" เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นข้อความสำคัญจากคำแถลงของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ที่ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 6 เมษายนนี้ เพื่อตอบโต้และแสดงท่าทีของประเทศไทยต่อมาตรการการค้าครั้งใหม่จากสหรัฐอเมริกา

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งมีอัตราสูงถึง ร้อยละ 36 โดยเฉพาะในสินค้าสำคัญ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป และสินค้าเกษตร ส่งผลกระทบต่อการส่งออกอย่างมีนัยสำคัญ

นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม เพื่อรับมือและเจรจากับภาคเอกชนและตัวแทนจากสหรัฐฯ มาโดยตลอด พร้อมกับแผนสำคัญในการส่ง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปยังสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจากับทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายภาษีใหม่นี้

สิ่งที่ไทยจะย้ำกับรัฐบาลวอชิงตัน คือ “ประเทศไทยไม่ใช่แค่ผู้ส่งออก แต่คือหุ้นส่วนเศรษฐกิจระยะยาวที่มีความน่าเชื่อถือสูง”  โดยรัฐบาลไทยเตรียมนำเสนอข้อเสนอหลายประการ อาทิ การเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เช่น พลังงาน อากาศยาน และสินค้าเกษตร  , การส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน , การลดเงื่อนไขการนำเข้าที่เป็นอุปสรรค , การร่วมมือในการปราบปรามการสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้า

พร้อมยืนยันว่า ข้อเสนอทั้งหมดนี้ "คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสำคัญ" และยังมีมาตรการเยียวยาระยะสั้น-ระยะยาวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทั้งกลุ่ม SME และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ  ซึ่งในวันที่ 8 เม.ย.นี้ รัฐบาลเตรียมประชุมคณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปท่าทีและข้อเสนอสุดท้าย ก่อนการเดินทางไปสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ