สถาปนิกผู้ออกแบบรัฐสภา ร้องคณะกมธ.ฯ วุฒิสภา ค้านต่อเติมตัวอาคาร เกรงลดทอนคุณค่า-สิ้นเปลืองงบฯ โดยใช่เหตุ 

ศาสตราจารย์ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา และประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะสร้างสรรค์ รับหนังสือจาก นายชาตรี ลดาลลิตสกุล ศิลปินแห่งชาติ และนายปิยเมศ ไกรฤกษ์ ในฐานะสถาปนิกผู้ออกแบบอาคารรัฐสภา คัดค้านการต่อเติมอาคารรัฐสภาโดยถมสระมรกต เพื่อทำห้องสมุดและร้านค้า โดยชี้แจงเหตุผลในการคัดค้านว่า สระมรกตถูกออกแบบและมีระบบกรองแบบสระว่ายน้ำ หากเปิดระบบให้น้ำไหลเวียนทุกวันก็จะไม่มียุงชุม อีกทั้งมีความสำคัญอย่างมากต่อการลดอุณหภูมิภายในโถงกลาง เนื่องจากตัวอาคารฯ มีขนาดใหญ่และไม่สามารถติดเครื่องปรับอากาศได้ทั่วถึง คณะผู้เชี่ยวชาญจึงออกแบบให้อาคารเป็นอาคารประหยัดพลังงานแบบปรับเย็นธรรมชาติ ส่วนกรณีรั่วซึม เป็นเรื่องคุณภาพการก่อสร้าง ซึ่งควรเป็นความรับผิดชอบของผู้รับเหมา เนื่องจากอยู่ในระยะประกันผลงานและเพิ่งตรวจรับงานไม่นาน 

ขณะเดียวกัน ได้เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับการย้ายห้องสมุดลงมาชั้น 1 เนื่องจากตำแหน่งเดิมที่อยู่ชั้น 9 และ 10 เชื่อมโยงกับหอจดหมายเหตุที่อยู่ชั้น 8 ซึ่งผู้ใช้อาคารจากทุกชั้นสามารถเข้าถึงได้ จึงมองว่า สิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น 

ขณะที่การต่อเติมตัวอาคารส่วนอื่น ๆ มองว่า จะทำลายคุณค่าและความหมายของงานสถาปัตยกรรมชิ้นสำคัญของชาติ เนื่องจากงานสถาปัตยกรรมรัฐสภาเป็นสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยในเวทีสถาปัตยกรรมโลก อีกทั้งการต่อเติม อาจทำให้ความแข็งแรงของตัวอาคารลดลง 

นอกจากนี้ ยังระบุถึงแนวความคิดในการออกแบบศาลาแก้วว่า สำหรับใช้งานในพิธีที่สำคัญ อาทิ พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และงานพิธีทำบุญในเทศกาลต่าง ๆ ของรัฐสภา เป็นศาลาที่ไม่ติดแอร์แต่สามารถใช้งานได้จริง โดยออกแบบให้มีผ้าใบชนิดเคลือบด้วยอะลูมิเนียมสะท้อนแสงกันความร้อนที่เลื่อนปิดกระจกให้ทึบได้ด้วยระบบไฟฟ้า อากาศระหว่างกระจกและผ้าใบจะเป็นฉนวนอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งสระน้ำที่อยู่ล้อมรอบก็มีส่วนช่วยลดอุณหภูมิ