นิด้าโพลเผยผลสำรวจ ‘เปิดเทอมนี้ ลูกหลานเรียนไหนดี’ คนไทยกังวลอนาคตการศึกษา แนะรัฐเร่งลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ 

วันที่  18 พ.ค.68 - ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อการศึกษาไทย Thailand Education Partnership (TEP) เผยผลสำรวจหัวข้อ “เปิดเทอมแล้ว ลูกหลานเรียนที่ไหนดี” ซึ่งสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,310 ราย ระหว่างวันที่ 12–14 พฤษภาคม 2568 เพื่อสะท้อนมุมมองต่อระบบการศึกษาไทยในปัจจุบัน

ผลสำรวจพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ “กังวล” ต่ออนาคตทางการศึกษาของเยาวชน โดยร้อยละ 30.69 ระบุว่า ‘ค่อนข้างกังวล’ และร้อยละ 22.21 ระบุว่า ‘กังวลมาก’ รวมแล้วคิดเป็นกว่าครึ่งของกลุ่มตัวอย่าง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งระบุว่าไม่ค่อยกังวลหรือไม่กังวลเลย

ในคำถามว่าโรงเรียนประเภทใดที่สามารถมอบการศึกษาคุณภาพดีแก่เด็กไทยได้มากที่สุด พบว่า โรงเรียนของรัฐ ยังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในสายตาประชาชน โดยร้อยละ 46.26 ให้ความเชื่อมั่น รองลงมาคือ โรงเรียนเอกชน (26.18%) และโรงเรียนนานาชาติ (7.18%) ส่วนโรงเรียนทางเลือก เช่น โฮมสคูล มีสัดส่วนน้อยที่สุดเพียง 0.23%

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรงเรียนได้รับความไว้วางใจในการให้การศึกษาที่มีคุณภาพ ได้แก่ ครูมีคุณภาพ (46.64%) , หลักสูตรทันสมัย (44.75%) , โรงเรียนใกล้บ้าน (33.69%) , อุปกรณ์การเรียนทันสมัย (32.46%) , ราคาที่เหมาะสม (31.31%)

อย่างไรก็ตาม แม้หลายคนจะมีโรงเรียนที่อยากให้บุตรหลานเข้าเรียน แต่ร้อยละ 27.79 กลับระบุว่าไม่มีโอกาส หรือมีโอกาสเพียงบางคนเท่านั้น โดย สาเหตุหลักคือ “ค่าใช้จ่ายสูงเกินไป” (56.05%) รองลงมาคือ โรงเรียนอยู่ไกลบ้าน และสอบไม่ผ่าน  เมื่อถามว่า หน่วยงานใดควรรับผิดชอบในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย คนไทยกว่า ร้อยละ 65.50 ระบุว่า “รัฐบาล” โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานรัฐ ขณะที่บางส่วนเชื่อว่า ต้องพึ่งตนเอง หรือภาคธุรกิจและองค์กรท้องถิ่นควรเข้ามาช่วยสนับสนุน

ผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนชัดเจนว่า แม้โรงเรียนรัฐยังได้รับความเชื่อมั่นสูงจากประชาชน แต่ปัญหาค่าใช้จ่าย โครงสร้างระบบที่ไม่เท่าเทียม และช่องว่างทางโอกาส ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงการศึกษาคุณภาพของเด็กไทย