ศาลปกครองสูงสุดชี้แจงคดีจำนำข้าว ‘ยิ่งลักษณ์’ เพิกถอนคำสั่งเฉพาะส่วน ไม่สั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ชี้กระบวนพิจารณาทำตามกฎหมายทุกขั้นตอน

สำนักงานศาลปกครองออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อกฎหมายคดีหมายเลขแดง ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ซึ่งกำหนดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือก เป็นเงินกว่า 35,717 ล้านบาท  โดยศาลปกครองสูงสุดชี้แจงว่า คดีนี้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองมีอำนาจเพียงเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ทั้งหมดหรือบางส่วน แต่ ไม่มีอำนาจพิพากษาให้คู่กรณีฝ่ายผู้ฟ้องคดีต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ในคดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งพิพาทเฉพาะส่วนที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดใช้เกินกว่า 10,028,861,880.83 บาท แต่ไม่ได้มีคำสั่งบังคับให้ชดใช้ค่าสินไหมต่อผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 9 แต่อย่างใด

กระบวนการพิจารณาคดีนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 โดยตุลาการศาลปกครองสูงสุดลงลายมือชื่อในร่างคำพิพากษาครบทั้ง 5 คน ต่อมาประธานศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้นำคดีเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมใหญ่ตุลาการ ซึ่งประกอบด้วยตุลาการศาลปกครองสูงสุดทุกคนที่ยังปฏิบัติหน้าที่ ส่วนตุลาการที่พ้นจากราชการไปแล้วไม่สามารถเข้าร่วมได้ กระบวนการทั้งหมดเป็นไปตามมาตรา 68 และ 69 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542   นอกจากนี้ ตุลาการที่อยู่ในที่ประชุมใหญ่ยังมีสิทธิทำความเห็นแย้งตามมาตรา 67 โดยมีการบันทึกความเห็นแย้งและรายชื่อตุลาการที่แสดงความเห็นในคำพิพากษาแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามกระบวนการและหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด