เทย์เลอร์ สวิฟต์ ประกาศชัยชนะยิ่งใหญ่! ทวงคืนสิทธิ์ครอบครองผลงานเพลงต้นฉบับทั้งหมดจากค่ายเก่าได้สำเร็จ ปิดฉากการต่อสู้ยืดเยื้อนาน 6 ปี พร้อมเตรียมปล่อยอัลบั้มบันทึกเสียงใหม่

เทย์เลอร์ สวิฟต์ ศิลปินป็อปซูเปอร์สตาร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่ 14 รางวัล ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการเพลงทั่วโลกอีกครั้ง เมื่อเธอประกาศชัยชนะครั้งใหญ่ผ่านทางเว็บไซต์ของเธอเมื่อวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่าเธอสามารถ ซื้อสิทธิ์ผลงานเพลงต้นฉบับทั้งหมดที่เคยบันทึกไว้กับค่าย Big Machine Label Group ได้แล้ว ซึ่งรวมถึงเพลงฮิตระดับโลกมากมาย อาทิ Shake It Off และ You Belong With Me

เทย์เลอร์ สวิฟต์ กล่าวด้วยความรู้สึกซาบซึ้งว่า "สิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเป็นของฉัน ตอนนี้เป็นของฉันจริงๆ แล้ว" และยอมรับว่าเธอถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่าเรื่องนี้กำลังจะเกิดขึ้นจริง ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญหลังจากที่เธอต้องต่อสู้ยืดเยื้อกับค่ายเพลงเก่ามานานถึง 6 ปี

ย้อนกลับไปในปี 2019 สวิฟต์เคยตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อ Scooter Braun ผู้บริหารวงการเพลงชื่อดัง ได้เข้าซื้อกิจการของ Big Machine Label Group และกลายเป็นเจ้าของสิทธิ์เพลงต้นฉบับของเธอทั้งหมด ซึ่งสวิฟต์อ้างว่าเธอไม่ได้รับโอกาสในการซื้อคืนด้วยตัวเอง ก่อนที่สิทธิ์ดังกล่าวจะถูกขายต่อไปยังบริษัทลงทุน Shamrock Capital ในเวลาต่อมา

ด้วยความไม่ได้รับข้อเสนอให้ซื้อสิทธิ์คืนในตอนนั้น สวิฟต์จึงตัดสินใจใช้ทางเลือกใหม่ ด้วยการบันทึกเสียงอัลบั้มเก่าทั้งหมดของเธอใหม่อีกครั้ง และเพิ่มชื่อท้ายว่า "Taylor’s Version" ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างถล่มทลายจากแฟนๆ ทั่วโลก และกลายเป็นปรากฏการณ์ที่แสดงพลังของศิลปินในการทวงคืนผลงาน

และในที่สุด ความพยายามของสวิฟต์ก็ประสบความสำเร็จ เธอสามารถตกลงซื้อสิทธิ์ต้นฉบับเพลงจาก Shamrock Capital ได้แล้ว ซึ่งเธอระบุว่า นี่คือ "ความฝันสูงสุดที่กลายเป็นจริง" อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของดีลครั้งนี้อย่างเป็นทางการ

เทย์เลอร์ สวิฟต์ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เธอได้บันทึกเสียงใหม่สำหรับอัลบั้มเปิดตัว "Taylor Swift (2006)" และบางส่วนของอัลบั้ม Reputation (2017) ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะปล่อยออกมาเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

ความสำเร็จในการทวงคืนผลงานของตัวเองในครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ำถึงอิทธิพลและพลังของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ในฐานะศิลปินระดับโลก ที่ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้ารางวัล "อัลบั้มแห่งปี" จากเวทีแกรมมี่ได้ถึง 4 สมัย และเพิ่งปิดฉากทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอย่าง The Eras Tour ลงไปด้วยความสำเร็จอันงดงาม