วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2568
12 มิ.ย. 2568 15:45 | 4669 view
@juthamas
สำนวน ‘กินคาว ไม่กินหวาน สันดานไพร่’ แฝงนัยเปรียบเทียบถึงความแตกต่างทางชนชั้นในสมัยโบราณ: ชนชั้นสูงมีโอกาสได้ลิ้มของหวานหลังมื้ออาหาร แต่ในปัจจุบันใช้กันในเชิงหยอกล้อถึงแพชชั่นกินหวานของคนทั่วไปมากกว่า แล้วเหตุใดผู้คนจึงต้องเปรียบเทียบการกินกับชนชั้นวรรณะด้วย?
ที่มา https://x.com/somsakjeam112/status/1351835360892882945
หากย้อนไปในสมัยที่สยามยังใช้ระบบชนชั้นศักดินา อาหารชาววัง หรือ “กับข้าวเจ้านาย” เกิดขึ้นจากการประดิษฐ์คิดค้นในรั้ววัง ตั้งแต่พระบรมมหาราชวัง ไปจนถึงวังเจ้านาย และบ้านของขุนนางระดับสูงที่มีสายสัมพันธ์กับวัง
บทบาทสำคัญอยู่ที่ สตรีชั้นสูง—เจ้านายฝ่ายใน พระมเหสี เจ้านายสตรี และข้าราชสตรี ผู้ดูแล “ห้องเครื่องต้น” และเป็นผู้รังสรรค์เมนูอาหารที่อ่อนละเอียดและงดงาม ด้วยวัตถุดิบสดใหม่และกรรมวิธีซับซ้อนต้องใช้แรงงานหลายคน
ในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ละมื้อจะประกอบด้วยชุดอาหาร “เครื่องเจ้านาย” อย่างน้อย 7 ประเภท รวมทั้งข้าวเสวย, เครื่องคาว, แกง, เครื่องเคียง และของหวาน รสชาติจะนุ่มนวล ไม่เผ็ดจัด เน้นความกลมกล่อม ทั้งยังจัดเสิร์ฟอย่างวิจิตรบรรจงบนถาดเงินหรือถาดทอง
ที่มา https://www.aroundonline.com/wp-content/uploads/2022/04/cover-2.jpg
ปี พ.ศ. 2440 น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบที่มีราคาสูงและหาซื้อได้ยาก เพราะถือเป็นสินค้านำเข้า การมีของหวานตบท้ายจึงเป็นนิสัยการกินของผู้ที่มีเงิน ในช่วงหนึ่งน้ำตาลเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย กินเพื่อลดความเลี่ยนของอาหารคาวมื้อหลัก ในทางตรงกันข้ามอาหารการกินของไพร่ทาสจะเน้นวัตถุดิบธรรมชาติ หาได้ง่าย และไม่พิถีพิถันในการจัดแต่ง เหล่าไพร่ทาสจึงไม่มีโอกาสเข้าถึงอาหารชั้นสูง
แต่ใน พ.ศ. 2503-2504 ไทยก็ประสบปัญหาน้ำตาลล้นตลาด ทำให้รัฐจำเป็นต้องออกนโยบายเพื่อชักจูงให้คนไทยหันมาบริโภคน้ำตาลมากขึ้น มีการบัญญัติน้ำตาลเข้าเป็นอาหารหมู่ในที่หนึ่ง จากโภชนาการอาหารห้าหมู่ โดยบอกว่าการกินน้ำตาลในอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายแข็งแรง มีการโฆษณาและพยายามขยายตลาดน้ำตาลทรายไปยังชนบท การเข้าถึงน้ำตาลจึงเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น ไม่ได้มีราคาสูงเช่นเดิม น้ำตาลทรายจึงถูกเปลี่ยนบริบทมาเป็นความสะอาด ความทันสมัย กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทยนับตั้งแต่นั้นมา
ที่มา https://themomentum.co/momentum-opinion-history-of-sugar-thai/
‘กินคาว ไม่กินหวาน สันดานไพร่’ จึงมิใช่แค่คำพูดเพียงเพื่อบ่งบอกนิสัยการกินของคนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นวลีที่ใช้ในการดูถูก เย้ยหยันชนชั้นล่างของสังคมไทยในสมัยโบราณ เห็นได้ชัดว่า ความหวาน ของหวาน น้ำตาล คือสถานะทางสังคม มิใช่รสชาติ เป็นการแฝงความหมายของรสชาติอาหารกับระดับชนชั้นทางสังคมอาหารที่มีรสชาติหวาน หมายถึง การเข้าถึงรสชาติของผู้ดี ในช่วงหนึ่งจึงนิยมปรุงอาหารแบบละทิ้งรสชาติจัดจ้าน งดใช้เครื่องเทศ เพราะความคิดในยุคสมัยนั้นอาหารที่มีรสจัด หมายถึง อาหารของพวกลูกทุ่ง เป็นอาหารของชนชั้นล่าง ไม่ได้มีความทันสมัยศิวิไลซ์แบบที่ตนเองควรจะเป็น ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ฐานะทางสังคมของตนเองผ่านอาหาร
แต่ในปัจจุบันวลีฮิตดังกล่าวไม่ได้มีความหมายเช่นในอดีตแล้ว แต่เป็นเพียงบทสนทนาเพื่อหยอกล้อกันภายหลังมื้ออาหารเท่านั้น
ข่าว
18 ส.ค. 2568 16:09 170 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 15:32 132 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 15:22 141 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 14:58 223 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 14:53 141 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 13:22 176 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 12:48 250 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 11:43 160 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 11:13 163 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 10:57 171 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 10:29 169 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 10:08 228 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 09:41 167 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 09:36 357 views
ข่าว
18 ส.ค. 2568 09:35 138 views
ข่าว
17 ส.ค. 2568 19:24 387 views