วันที่ 15 มิถุนายน 2568
12 มิ.ย. 2568 15:45 | 116 view
@juthamas
สำนวน ‘กินคาว ไม่กินหวาน สันดานไพร่’ แฝงนัยเปรียบเทียบถึงความแตกต่างทางชนชั้นในสมัยโบราณ: ชนชั้นสูงมีโอกาสได้ลิ้มของหวานหลังมื้ออาหาร แต่ในปัจจุบันใช้กันในเชิงหยอกล้อถึงแพชชั่นกินหวานของคนทั่วไปมากกว่า แล้วเหตุใดผู้คนจึงต้องเปรียบเทียบการกินกับชนชั้นวรรณะด้วย?
ที่มา https://x.com/somsakjeam112/status/1351835360892882945
หากย้อนไปในสมัยที่สยามยังใช้ระบบชนชั้นศักดินา อาหารชาววัง หรือ “กับข้าวเจ้านาย” เกิดขึ้นจากการประดิษฐ์คิดค้นในรั้ววัง ตั้งแต่พระบรมมหาราชวัง ไปจนถึงวังเจ้านาย และบ้านของขุนนางระดับสูงที่มีสายสัมพันธ์กับวัง
บทบาทสำคัญอยู่ที่ สตรีชั้นสูง—เจ้านายฝ่ายใน พระมเหสี เจ้านายสตรี และข้าราชสตรี ผู้ดูแล “ห้องเครื่องต้น” และเป็นผู้รังสรรค์เมนูอาหารที่อ่อนละเอียดและงดงาม ด้วยวัตถุดิบสดใหม่และกรรมวิธีซับซ้อนต้องใช้แรงงานหลายคน
ในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ละมื้อจะประกอบด้วยชุดอาหาร “เครื่องเจ้านาย” อย่างน้อย 7 ประเภท รวมทั้งข้าวเสวย, เครื่องคาว, แกง, เครื่องเคียง และของหวาน รสชาติจะนุ่มนวล ไม่เผ็ดจัด เน้นความกลมกล่อม ทั้งยังจัดเสิร์ฟอย่างวิจิตรบรรจงบนถาดเงินหรือถาดทอง
ที่มา https://www.aroundonline.com/wp-content/uploads/2022/04/cover-2.jpg
ปี พ.ศ. 2440 น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบที่มีราคาสูงและหาซื้อได้ยาก เพราะถือเป็นสินค้านำเข้า การมีของหวานตบท้ายจึงเป็นนิสัยการกินของผู้ที่มีเงิน ในช่วงหนึ่งน้ำตาลเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย กินเพื่อลดความเลี่ยนของอาหารคาวมื้อหลัก ในทางตรงกันข้ามอาหารการกินของไพร่ทาสจะเน้นวัตถุดิบธรรมชาติ หาได้ง่าย และไม่พิถีพิถันในการจัดแต่ง เหล่าไพร่ทาสจึงไม่มีโอกาสเข้าถึงอาหารชั้นสูง
แต่ใน พ.ศ. 2503-2504 ไทยก็ประสบปัญหาน้ำตาลล้นตลาด ทำให้รัฐจำเป็นต้องออกนโยบายเพื่อชักจูงให้คนไทยหันมาบริโภคน้ำตาลมากขึ้น มีการบัญญัติน้ำตาลเข้าเป็นอาหารหมู่ในที่หนึ่ง จากโภชนาการอาหารห้าหมู่ โดยบอกว่าการกินน้ำตาลในอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายแข็งแรง มีการโฆษณาและพยายามขยายตลาดน้ำตาลทรายไปยังชนบท การเข้าถึงน้ำตาลจึงเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น ไม่ได้มีราคาสูงเช่นเดิม น้ำตาลทรายจึงถูกเปลี่ยนบริบทมาเป็นความสะอาด ความทันสมัย กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทยนับตั้งแต่นั้นมา
ที่มา https://themomentum.co/momentum-opinion-history-of-sugar-thai/
‘กินคาว ไม่กินหวาน สันดานไพร่’ จึงมิใช่แค่คำพูดเพียงเพื่อบ่งบอกนิสัยการกินของคนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นวลีที่ใช้ในการดูถูก เย้ยหยันชนชั้นล่างของสังคมไทยในสมัยโบราณ เห็นได้ชัดว่า ความหวาน ของหวาน น้ำตาล คือสถานะทางสังคม มิใช่รสชาติ เป็นการแฝงความหมายของรสชาติอาหารกับระดับชนชั้นทางสังคมอาหารที่มีรสชาติหวาน หมายถึง การเข้าถึงรสชาติของผู้ดี ในช่วงหนึ่งจึงนิยมปรุงอาหารแบบละทิ้งรสชาติจัดจ้าน งดใช้เครื่องเทศ เพราะความคิดในยุคสมัยนั้นอาหารที่มีรสจัด หมายถึง อาหารของพวกลูกทุ่ง เป็นอาหารของชนชั้นล่าง ไม่ได้มีความทันสมัยศิวิไลซ์แบบที่ตนเองควรจะเป็น ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ฐานะทางสังคมของตนเองผ่านอาหาร
แต่ในปัจจุบันวลีฮิตดังกล่าวไม่ได้มีความหมายเช่นในอดีตแล้ว แต่เป็นเพียงบทสนทนาเพื่อหยอกล้อกันภายหลังมื้ออาหารเท่านั้น
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 18:24 180 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 16:36 123 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 14:48 122 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 14:46 99 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 13:12 95 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 13:10 179 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 13:08 112 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 13:06 156 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 13:02 183 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 13:01 117 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 12:56 125 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 11:37 123 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 11:32 178 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 11:27 200 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 11:22 176 views
ข่าว
14 มิ.ย. 2568 11:20 198 views