เอกชน-ภาคธุรกิจเสียดาย ครม.อิ๊งค์ 2 ไร้มือศก. ร่วมทีมเรียกความเชื่อมั่น จี้แก้หนี้ เพิ่มสภาพคล่อง

เสียงสะท้อนจากภาคเอกชนต่อครม. แพทองธาร 2 - นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ถือว่าเป็นที่น่าเสียดายที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ไม่มีการดึงคนนอกหรือมืออาชีพด้านเศรษฐกิจ เข้ามาร่วมด้วย เนื่องจากมีโอกาสแล้วก็น่าจะเพิ่มหรือเสริมเข้ามา เพราะเรื่องเร่งด่วนในขณะนี้ คือเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ภาคธุรกิจและประชาชนให้มีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อที่จะได้ตัดสินใจและวางแผนการลงทุนต่อไป ในขณะเดียวกันอยากให้รัฐบาลใหม่ยึดหลักแผนพัฒนาแห่งชาติในการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการศึกษา ไม่มุ่งเน้นนโยบายที่หาเสียงไว้มากจนเกินไป เพื่อให้มีการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาคดีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่สนทนากับนายฮุน เซนนั้น ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็เชื่อว่าฝ่ายการเมืองน่าจะมีแผนรับมือและแก้ปัญหาได้เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจสะดุด

“จากความมั่นใจในเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองนั้น ถือว่ามีผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่พอสมควรในครึ่งปีแรกนี้ โดยในช่วงไตรมาสแรกทั้งแนวราบและแนวสูงยอดขาย ยอดโอนและการเปิดตัวใหม่ลดลงมาก และไตรมาส 2 ซึ่งตัวเลขยังไม่ออกมา แต่มีแนวโน้มที่จะลดลงเช่นกัน” นายสุนทรกล่าว

นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีข้อเสนอ 2 เรื่องที่อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งรัดแก้ไขปัญหา เรื่องแรกปัญหาเศรษฐกิจ เพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสถาบันการเงินมีการตั้งเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อไว้เข้มงวดมากขึ้น เช่น กรณีขอกู้ซื้อบ้านจะพิจารณาไปถึงรายละเอียดบริษัททำธุรกิจมีความมั่นคงหรือไม่ ถ้าไม่จึงทำให้ยอดถูกปฏิเสธสินเชื่อสูงมากกว่า 50% และขยายไปทุกระดับราคา จากเดิมอาจจะเป็นระดับไม่เกิน 3 ล้านบาท

ส่วนเรื่องที่สองอยากให้เร่งแก้ปัญหาความไม่ปลอดภัยที่นักท่องเที่ยวจีนมีความกังวลและไม่เดินทางเข้ามาไทย ที่กระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวของจีนลดลงอย่างมาก เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น อาจจะต้องมีการโปรโมตภาพลักษณ์ของประเทศไทยใหม่ ให้เขาเห็นในเรื่องดีๆ บ้าง เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ซึ่งต้องยอมรับว่าเมื่อนักท่องเที่ยวจีนหายไป ทำให้การซื้อขายคอนโดมิเนียมตลาดต่างชาติสำหรับชาวจีนหายไปด้วย ล่าสุดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 70%

นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบ และก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดถึงคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า ในความเห็นส่วนตัว ขอไม่ออกความเห็นเรื่องของรายบุคคล เพราะทุกคนต่างมีประสบการณ์ ในด้านการบริหารอยู่แล้วอาจจะมีการสับเปลี่ยนกระทรวงบ้าง ขอให้กำลังใจในการทำงานมากกว่า เนื่องจากภายใต้สถานการณ์ภายในและภายนอกประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงปัญหาชายแดนของเราเอง เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเป็นแกนหลักสำคัญในการแก้ปัญหาของประเทศ

”ในขณะที่คะแนนเสียงของรัฐบาลเองก็เกินกึ่งหนึ่งไม่มากนักหากรัฐบาลมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ได้มีข้อขัดแย้งต่างๆ ภายในรัฐบาล ย่อมส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนแก้ปัญหาต่างๆ รวมถึงจะส่งผลต่อความมั่นใจสำหรับภาคธุรกิจการลงทุนและภาคประชาชนด้วย“ นายอิสระกล่าว

นายอิสระกล่าวว่า หลังตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่แล้ว อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ คือ 1.นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.15 แสนล้านบาท ที่ ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำในหลายด้าน การคมนาคมขนส่ง การท่องเที่ยวเมืองรอง และเรื่องอื่นๆ เป็นทั้งมาตรการระยะสั้นและบางเรื่องจะส่งผลดีในระยะยาว

2.เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ ในปี 2568 เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ และก่อหนี้ผูกพันให้ทันในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ 3.เรื่องงบประมาณประจำปี 2559 ที่ต้องผ่านความเห็นชอบทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงต่อไป 4.การเจรจาทางการค้าเรื่องภาษีศุลกากรกับสหรัฐอเมริกาที่มีผลกระทบโดยตรงเรื่องของสินค้าส่งออก และ 5.ความต่อเนื่องในเรื่องการแก้ปัญหาสินเชื่อของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี และการแก้ปัญหาหนี้เสียของภาคครัวเรือนที่รัฐบาลได้เริ่มทำมาแล้วภายใต้โครงการคุณสู้เราช่วย