เดินหน้าลุย นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นตัวกลางเจรจาหารือกับกระทรวงการคลัง ขอลดหย่อนภาษี เพื่อหวังดูดภาคเอกชนแห่เข้ามาร่วมสนับสนุนการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ 22 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 "รมต.สรวงศ์"เตรียมถกกระทรวงการคลัง 
เจรจาขอลดภาษีดึงเอกชนหนุนวอลเลย์โลก

น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานกรรมการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 รายการ เอฟไอวีบี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2025 ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการ เข้าร่วมสังเกตุการณ์ พร้อมทั้งมี นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการจัดการแข่งขัน เข้าร่วม  ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
 
ที่ประชุมเป็นการหารือแนวทางการดำเนินงานและการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เอฟไอวีบี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2025 ภายใต้การกำกับของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 ทั้งขั้นตอนการดำเนินงานจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งกรอบวงเงินงบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรี และเป้าหมายการจัดการแข่งขัน และสถานะการผูกพันธ์สัญญา โดยมีการพิจารณาแผนงานการดำเนินการจัดการแข่งขัน และแหล่งงบประมาณในการจัดการแข่งขัน ทั้งจากงบกลาง 450 ล้านบาท, งบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 200 ล้านบาท, งบประมาณจากภาคเอกชนราว 474 ล้านบาท และงบประมาณท้องถิ่น
 
หลังการประชุม นายสรวงศ์ กล่าวว่า วันนี้ได้รับฟังความคืบหน้าของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันของประเทศไทย  ถือว่าน่าพอใจ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ เรื่องงบประมาณ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง มีทั้งงบจากภาครัฐ ที่อนุมัติเรียบร้อยแล้ว และบางส่วนจากภาคเอกชน ซึ่งจะมีเรื่องภาษี และสิทธิประโยชน์ต่างๆ จะรับหน้าที่ไปหารือกับกระทรวงการคลังว่าอันไหนที่จะสามารถลดหย่อน หรือของดเว้นได้ อันไหนที่เป็นการลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐส่วนตัวยินดี 
 
ด้าน นายสมพร กล่าวว่า สมาคมต้องขอบคุณทางนายกรัฐมนตรี, รองนายกฯสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และรัฐมนตรีสรวงศ์ เทียนทอง ที่ได้ประสานงานเรื่องงบประมาณที่รัฐบาลสนับสนุนทั้งงบกลาง และงบกองทุนฯ ส่วนงบที่สมาคมรับผิดชอบคืองบจากเอกชนราว 474 ล้านบาท ขณะนี้เราหามาได้ราว 150 ล้านบาท (จากการขายบัตรเข้าชม 50 ล้านบาท, ไทยเบฟเวอเรจ 50 ล้านบาท, พีพีทีวี 4 ล้านบาท, เอไอเอส 8 ล้านบาท, ยูโร่เค้ก 10 ล้านบาท และอื่นๆ) ขาดอีกราว 300 ล้านบาทที่สมาคมจะหามาเพิ่มเติม ได้ประสานกับทางภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ คิดว่าไม่น่าจะเกินเหลือบ่ากว่าแรงของพวกเรา