"สุวัจน์" ส่ง "น้องรักเทวัญ" ช่วยงานรัฐบาลเต็มที่ ชี้รัฐบาลต้องเร่งทำงาน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนรอคอยในช่วง 2 ปีที่เหลือ พร้อมยืนยันบทบาทของ "พรรคชาติพัฒนา" ในการร่วมผลักดันงานรัฐบาลอย่างเต็มกำลัง แม้จะมีเพียง 3 เสียงในสภา

วันนี้ (5 กรกฎาคม 2568) ที่ จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา กล่าวการดูหน้าตา ครม.และเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาของประเทศที่ประชาชนรออยู่ว่า ตอนนี้ก็มีการปรับคณะรัฐมนตรีแล้วก็คิดว่า ครม.ที่ได้มีการปรับก็คงจะต้องเร่งในเรื่องของการทำงาน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตอนนี้รัฐบาลก็มาได้ 2 ปีแล้ว ฉะนั้น 2 ปีที่เหลือก็อยากให้คณะรัฐมนตรีชุดนี้ รัฐมนตรีปัจจุบันได้เร่งรัดการทำงาน ถ้าคณะรัฐมนตรีจะได้แถลงถึงงานที่จะทำจากนี้ไปว่า 2 ปีจากอายุที่เหลือนี้ ครม.หรือรัฐบาลจะทำอะไรบ้างให้สำเร็จก็จะเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนก็น่าจะมีความยินดี เพราะว่าตอนจัดตั้งรัฐบาลเราก็ได้แถลงนโยบายไปแล้วและนี่ก็มีครึ่งเทอมแล้ว และมีปรับคณะรัฐมนตรี พี่น้องประชาชนก็มีความคาดหวังในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ฉะนั้นถ้าเกิดว่าตอนนี้รัฐบาลจะได้หยิบยกเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องสำคัญที่จะใช้ระยะเวลาที่เหลือครึ่งเทอมของสภาฯในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ให้กับปัญหาเศรษฐกิจ อะไรที่จะต้องทำให้สำเร็จให้พรรคร่วมรัฐบาล ครม.ทุกคนเป็นทีมเวิร์คในการผลักดันเรื่องนั้นให้ยุติก็จะเป็นที่สบายใจและเป็นที่พึงพอใจของพี่น้องประชาชน

เช่น สมมุติบอกว่าเรื่องพลังงานราคาจะต้องถูก จากนี้จะทำอย่างไรให้จบ, เรื่องราคาพืชผลการเกษตรจากนี้ไปจะว่าอย่างไร, เรื่องค่าแรงขั้นต่ำหรือเรื่องนโยบายที่กระทบเศรษฐกิจจากเรื่องประธานาธิบดี ทรัมป์, เรื่องของการจัดการกับปัญหายาเสพติด คือรัฐบาลหยิบนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จแล้วสร้างความชัดเจนให้กับพี่น้องประชาชน ตนคิดว่าก็จะทำให้บรรยากาศในการทำงานนั้นจะทำให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่น และรัฐบาลก็มุ่งหน้าในส่วนนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเศรษฐกิจก็อยากจะฝากถึงคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ก็เชื่อมั่นในความรู้ความสามารถ และตอนนี้เสถียรภาพ เสียงของสภาฯก็ลดน้อยลงไปก็สูสีกับฝ่ายค้าน แม้แต่ตอนประชุมสภาฯนัดแรกก็ยังปิดประชุมกันก่อน

ฉะนั้นอันนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า ความสำคัญขององค์ประชุม ความสำคัญของการเข้าประชุม ทุกเสียงของรัฐบาลชุดนี้จากนี้ไปมีความหมายที่สุด ทุกคนก็คงจะต้องเหนื่อยกัน งานสภาก็ต้องมา งานพื้นที่ก็ต้องทำ ฉะนั้นเรื่องเสถียรภาพ เรื่องการกำชับเรื่ององค์ประชุมจากนี้ไปเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากก็ฝากทางวิปรัฐบาล ฝากทางพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่านว่า ช่วยกันสร้างเสถียรภาพการทำงานในสภา เพราะว่าเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศ ต่อการลงทุน ต่อเศรษฐกิจด้วย

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองเมื่อเริ่มมีสื่อต่างๆ ออกมากดดันรัฐบาลจะส่งผลอะไรกับรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ฯ ตอบว่า เรื่องนี้ตนคิดว่ารัฐบาลก็คงจะต้องมุ่งหน้าทำงานและใช้ผลงานเป็นสิ่งที่ตอบคำถามดีที่สุด ส่วนที่การคาดการณ์วิเคราะห์ว่ารัฐบาลจะอยู่แค่ 2-3 เดือนหรือไม่เกินสิ้นปีนั้น ตนคิดว่า คือการเมืองอย่างที่เคยบอกมันก็ครึ่งเทอมไปแล้ว ฉะนั้นตอนนี้มันก็นับถอยหลังให้กันแล้ว ตนเชื่อว่าทุกพรรคการเมือง นักการเมืองทุกคนก็มองถึงเรื่องการเลือกตั้งกันแล้วว่า อีก 2 ปี เพียงแต่ว่าสถานการณ์อะไรที่มันจะเกิดเราก็ต้องยอมรับกัน เช่น มีการปรับ ครม. หรือท่านนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือศาลรัฐธรรมนูญอาจจะวินิจฉัยอำนาจออกมา

ฉะนั้นขั้นตอนต่างๆทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไปอะไรก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ฉะนั้นตนเชื่อว่าทุกคนก็คงเข้าใจ แต่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่อะไรจะเกิดขึ้นกับสถานการณ์ทางการเมืองก็ขอให้อยู่ในระบอบประชาธิปไตย ขอให้เป็นขั้นตอนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย ขอให้พวกเราได้ช่วยกันประคับประคอง เพราะประชาธิปไตยเป็นมาตรฐานสากล เหมือนกับเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่ความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจเรื่องการลงทุน ตอนนี้เราก็มีวิกฤตเศรษฐกิจแล้วเราก็ยังมีปัญหาเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาเกิดขึ้นด้วย ฉะนั้นเศรษฐกิจเราก็ต้องแก้

แต่ปัญหาเรื่องชายแดนก็กระทบต่อความเชื่อมั่น ฉะนั้นเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงในการที่จะดูแล ฉะนั้นเราก็ต้องพยายามลดประเด็นต่างๆให้มีปัญหาน้อยที่สุด เพื่อเราจะได้เดินหน้าประเทศไปได้ ส่วนพรรคชาติพัฒนาจะร่วมอยู่ไปจนครบอีก 2 ปีนั้น นายสุวัจน์ฯตอบว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล โดยเฉพาะในครั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี และขอบคุณพรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำที่ได้ให้ความไว้วางใจ ให้เกียรติพรรคชาติพัฒนาให้หัวหน้าพรรคคือนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เข้าไปช่วยทำงานในรัฐบาล เราก็จะทำงานเต็มที่ถึงแม้ว่าจะมี 3 เสียง แต่ทุกเสียงก็จะเป็นเสถียรภาพของรัฐบาล

ส่วนพรรคชาติพัฒนาเข้าไปช่วยแล้วเรื่องเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นนั้น นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า ก็อย่างที่บอกว่าเสถียรภาพมันลดน้อยลงไป เสียงมันน้อยลงไป ฉะนั้นทุกเสียงมีความหมาย พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคต้องช่วยกันในการที่จะให้การทำงานในสภาฯหรือการทำงานใน ครม.ตอบโจทย์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและช่วยกันผนึกกำลังในการทำงานเรื่องเศรษฐกิจใน 2 ปีหลังอย่างที่ตนเรียน ตนอยากเห็นเราร่วมกันออกมาพูดเลย ออกมาประกาศเลยว่าจากนี้ไปมีเรื่องอะไรที่เป็นนโยบายที่สำคัญที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลก ของประเทศที่รัฐบาลจะใช้เวลาที่เหลืออยู่จะดำเนินการสิ่งนั้น ตนว่าก็จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนว่า เราตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศกัน นายสุวัจน์ฯกล่าว

ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ตนเองจะเข้ากระทรวงศึกษาธิการเป็นทางการในวันอังคารที่ 8 ก.ค. นี้ แล้วจะได้พูดคุยหารือแนวทางการทำงานกับ รมว.ศึกษาธิการ และคงจะเริ่มเดินหน้าขับเคลื่อนกันเลย ส่วนที่มีการปิดประชุมสภาฯหรือว่าสภาล่มอะไรนั้น ตนเองเพิ่งทราบข่าวเหมือนกัน ตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้อยู่สภาฯเหมือนกัน แต่ก็บอกได้เลยว่าเสียงมันก็ใกล้เคียงกัน ตนว่าใหม่ๆ มันก็อาจจะเพิ่งเปิดสภาฯ เดี๋ยวก็ปรับปรุงแก้ไขกันไปเรื่อยๆในเรื่องของวิปฯ