กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ส่งสัญญาณเตือนภัยครอบคลุม 33 จังหวัด เสี่ยงน้ำท่วมและผลกระทบจากแม่น้ำโขงที่ระดับน้ำสูงขึ้น สั่งเตรียมพร้อมอพยพด่วนหากจำเป็น 

5 กรกฎาคม 2568 – กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ออกประกาศเตือนภัยฉบับสำคัญถึงประชาชนใน 33 จังหวัดทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และผลกระทบจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแม่น้ำโขงที่อาจเปลี่ยนแปลง ระหว่างวันที่ 6-12 กรกฎาคมนี้

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงอย่างใกล้ชิด พบว่าบางพื้นที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภัยพิบัติจากฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยจังหวัดที่ถูกแจ้งเตือนในแต่ละภาค ประกอบด้วย 
-ภาคเหนือ (4 จังหวัด): เชียงราย, พะเยา, น่าน, ตาก
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (8 จังหวัด): เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, ยโสธร, อุบลราชธานี
-ภาคกลาง (4 จังหวัด): ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด
-ภาคใต้ (4 จังหวัด): สุราษฎร์ธานี, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษสำหรับระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ แม่น้ำอิง ในอำเภอเชียงคำ, เทิง, พญาเม็งราย, ขุนตาล, และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย รวมถึง แม่น้ำสาย บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ที่น่าจับตาคือ ผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกสะสมในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อจังหวัดริมแม่น้ำโขงของไทย ได้แก่ เชียงราย, เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, นครพนม, มุกดาหาร, อำนาจเจริญ, และอุบลราชธานี

ปภ. ได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสาธารณภัย พร้อมกำชับให้หน่วยงานในพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง หรืออพยพทันทีหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น