วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2568
7 ก.ค. 2568 16:30 | 73 view
@nipon supapoom
เปิดยุทธการกวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติ Interpol ยืนยันร่วมมือไทยเต็มศักยภาพ สนับสนุนเครื่องมือ-ข้อมูลเชิงลึก ดันไทยเป็นผู้นำขับเคลื่อนการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์หวังลดอาชญากรรมลงกว่า 50% ใน 3 เดือน
7 กรกฎาคม 2568 – ประเทศไทยเดินหน้าอย่างจริงจังในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ที่สร้างความเสียหายมหาศาล ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) และหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังสำนักงานใหญ่องค์การตำรวจสากล (Interpol) ณ เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส เพื่อยกระดับความร่วมมือในการกวาดล้างขบวนการเหล่านี้ โดยได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์อาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสมาชิก Interpol รวมถึงได้ยื่นหนังสือและหารือกับผู้บริหารระดับสูงของ Interpol ได้แก่ นาย Cyril GOUT ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายกิจการตำรวจ และ นาย Abdulaziz OBAIDALLA ผู้อำนวยการฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการสนับสนุนส่วนภูมิภาค เพื่อนำเสนอข้อมูลและสถานการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ ซึ่งมีฐานที่มั่นสำคัญในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกัมพูชา ที่ได้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อประชาชนและระบบเศรษฐกิจของไทยและนานาชาติ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยคาดการณ์ว่ารายได้จากอาชญากรรมเหล่านี้มีมูลค่าสูงกว่า 60% ของรายได้ประเทศกัมพูชา
ผลจากการหารือเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดย องค์การตำรวจสากล (Interpol) ได้ยืนยันที่จะร่วมมือกับทางการไทยอย่างเต็มศักยภาพ โดยจะสนับสนุนทั้งเครื่องมือ, ข้อมูลเชิงลึก, การวิเคราะห์ และการวางแผนปฏิบัติการ เพื่อเปิดฉากกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ นอกจากนี้ จะมีการ ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของ Interpol มาประจำการที่ "ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ของประเทศไทย (War Room)" ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลไทย ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการนำองค์กรระหว่างประเทศและประเทศต่างๆ เข้ามาร่วมในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย
พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า Interpol ซึ่งมีสมาชิกรวม 196 ประเทศทั่วโลก และมีทั้งประเทศไทย กัมพูชา รวมถึงประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์เป็นสมาชิก จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานงานความร่วมมือระหว่างตำรวจนานาชาติ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายในประเทศสมาชิก แลกเปลี่ยนข้อมูลคนร้ายและข้อมูลอาชญากรรม ซึ่งการขับเคลื่อนการปราบปรามผ่านกลไกของ Interpol จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ โดยมีประเทศไทยเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนและสามารถปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ได้อย่างเด็ดขาด
พล.ต.อ.ธัชชัยฯ มั่นใจว่า การจัดตั้ง "ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ของประเทศไทย (War Room)" ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะเป็นกลไกทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่มีความสัมพันธ์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกัมพูชา ซึ่งจะทำให้การติดตามจับกุมคนร้ายและการอายัดเงินที่ถูกหลอกลวงสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและทันต่อรูปแบบการกระทำความผิดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
รัฐบาลไทยได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ภายใน 3 เดือนนับจากนี้ ปัญหาอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ในประเทศไทยต้องลดลงมากกว่า 50% และที่สำคัญคือ ต้องไม่ให้กลุ่มคนร้ายใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเด็ดขาดอีกต่อไป การร่วมมือกับ Interpol ในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างยั่งยืน
ข่าว
7 ก.ค. 2568 17:02 85 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 16:55 84 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 16:47 85 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 16:38 75 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 16:30 74 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 16:28 78 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 16:26 120 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 16:21 94 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 15:26 61 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 15:23 82 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 15:09 93 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 14:51 109 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 14:49 69 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 14:35 80 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 14:03 83 views
ข่าว
7 ก.ค. 2568 13:52 90 views