วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568
9 ก.ค. 2568 09:39 | 99 view
@pracha
อนุทินเล่าเบื้องลึกวงประชุมผู้นำจีน สีจิ้นผิง ย้ำ 3 หน เลิกกม.คอมเพล็กซ์ ไทยเมินจนท่องเที่ยวพัง บี้ถอนร่างถาวร
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ในประเด็น การถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร ออกจากการพิจารณาในสภา ระบุว่า.....
พรรคภูมิใจไทยยินดี และพร้อมสนับสนุนให้มีการถอนญัตติ การนำเสนอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือร่างกฎหมายกาสิโน ออกจากวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (9 ก.ค.) หากรัฐบาลยืนยันว่าจะยกเลิกนโยบายนี้ และไม่นำกลับเข้าสู่การพิจารณาอีกต่อไป
นโยบายสถานบันเทิงครบวงจรเป็นสิ่งที่ถูกอ้างว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ให้ความร่วมมือกับพรรคแกนนำรัฐบาล และเป็นหนึ่งในสารตั้งต้นที่มีความคิดจะกดดันให้พรรคภูมิใจไทยต้องออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าไม่พร้อมที่จะให้การสนับสนุนร่างกฏหมายนี้เพียงแต่ไม่พูดออกมา เพราะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทยได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้อย่างชัดเจนแล้ว จึงพร้อมใจกันให้พรรคภูมิใจไทยรับบทเป็นผู้ร้ายต่อพรรคแกนนำรัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว จนกระทั่งถึงวันที่มีความพยายามจะพิจารณากฎหมายฉบับนี้ในสมัยประชุมสภาที่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลแทบทุกพรรคก็ได้แสดงท่าทีที่ไม่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ และถึงขั้นที่มีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งออกแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษร ไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจนต่อสาธารณชน โชคดีที่นายกรัฐมนตรีได้ตัดสินใจชะลอการนำเสนอกฎหมายในวันนั้น และได้ขอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปอีกสมัยประชุมหนึ่ง
แม้ว่าวันนี้รัฐบาลจะมีการเสนอให้ถอนญัตตินี้ออกไป แต่ก็ถือว่ามันสายไปเสียแล้ว การดำเนินนโยบายนี้มาอย่างต่อเนื่องได้สร้างความเสียหายอย่างยับเยินแก่ภาคการท่องเที่ยวของไทยอย่างรุนแรงที่สุดจนไม่อาจเยียวยาได้อีก
รัฐบาลทราบเป็นอย่างดีว่าจีนมีท่าทีไม่เห็นด้วยที่ทางการไทยจะผ่านกฎหมายให้มีการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร พร้อมกับอนุญาตให้มีการเล่นการพนันได้ และได้มีการพูดตอกย้ำถึงสามครั้งในที่ประชุมระดับผู้นำของทั้งสองประเทศ ว่าขอให้ยกเลิกนโยบายนี้เสีย มิฉะนั้นรัฐบาลจีนมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการต่างๆ ที่จะทำให้คนจีน และกิจการต่างๆ ของจีนปรับท่าทีต่อการท่องเที่ยว รวมไปถึงท่าทีต่อการค้า และการลงทุนกับไทยให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
นี่คือการหารือในระดับผู้นำประเทศทั้งสองคือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งผมได้ร่วมประชุมอยู่ด้วย และได้จดบันทึกการประชุมในประเด็นนี้อย่างละเอียดในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ซึ่งจะต้องมีความเกี่ยวข้องเป็นอันมากต่อการดำเนินนโยบายนี้ แต่ท่าทีของรัฐบาลไทยออกไปในทางเมินเฉย และไม่ให้ความสำคัญต่อคำเตือนจากผู้นำของจีนในวันนั้น และยังดำเนินการผลักดันเร่งรัดให้ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร (กาสิโน) ได้รับการบรรจุอยู่ในวาระแรกของสมัยประชุมสภานี้
ผลพวงอันเลวร้ายที่ได้เกิดขึ้นมาจนถึงบัดนี้ก็คือ การหายไปของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนกว่าร้อยละ 90 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ประชาชนที่อยู่ในภาคธุรกิจบริการ กิจการโรงแรม ที่พัก การขายสินค้าไทย ของที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าปลีก แผงขายของ ทั้งหมดได้รับผลกระทบอย่างมหาศาลที่พวกเขาไม่เคยประสบมาก่อน นี่เพียงแค่อยู่ในขั้นตอนการบรรจุญัตติเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายเท่านั้น เขายังส่งสัญญาณเตือนมาขนาดนี้ คงไม่ต้องนึกถึงความหายนะที่จะเกิดขึ้นหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาและมีผลบังคับใช้ ซึ่งหากการถอนญัตตินี้ รัฐบาลไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะไม่นำกลับเข้ามาอีกแล้ว
ความสูญเสียและความเสียหายของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะยังคงดำรงอยู่ต่อไปโดยไม่มีใครทราบว่าจะฟื้นสภาพขึ้นมาได้อีกเมื่อใด ผู้คนที่อยู่ในภาคส่วนนี้ก็คงจะต้องประสบสภาวะสิ้นเนื้อประดาตัว เป็นหนี้สินล้นพ้นตัวอย่างสาหัสที่สุดเป็นแน่แท้ คนจีนที่ยังคงอยู่ในเมืองไทยก็คงจะเป็นพวกจีนเทาเสียเป็นส่วนใหญ่ คนเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเรา
ช่วงนี้รัฐบาลดำเนินการผิดพลาดหลายเรื่อง ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่ประมาณค่าความเสียหายไม่ได้ ทั้งเรื่องความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน การเปลี่ยนนโยบายแจกเงินประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และล่าสุดการยืนยันของประธานาธิบดีสหรัฐในเรื่องภาษี ดังนั้น วันนี้ขอรัฐบาลอย่าทำผิดพลาดอีกเลย อย่านึกถึงกลุ่มทุนเพียงไม่กี่กลุ่มแล้วแลกด้วยความเสียหายย่อยยับของพี่น้องประชาชน ที่เขาเคยได้รับรายได้เลี้ยงชีพจากนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมหาศาลก่อนที่จะมีคำว่าสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งแฝงด้วยบ่อนการพนันหรือกาสิโนมาทำลายชีวิต และธุรกิจของพวกเขาโดยสิ้นเชิง
รัฐบาลมีหน้าที่สร้างความมั่นคง สร้างรายได้ให้กับประชาชนของประเทศ ไม่ใช่ให้กับกลุ่มทุนซึ่งมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของเรา รัฐบาลต้องไม่ผลักดันนโยบายที่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศ และต่อคู่ค้าที่มีสถานะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอีกด้วย เราควรต้องให้ความสำคัญต่อความเห็นและท่าทีของประเทศที่มีทัศนคติที่ดีต่อเราและยังมีการสานต่อสายสัมพันธ์อันดี จนมีคำกล่าวว่า “จีนและไทยมิใช่อื่นไกล เป็นพี่น้องกัน” หากการยกเลิกนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร จะมีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวและการค้าการลงทุนจากจีนพลิกฟื้นกลับขึ้นมา ส่งผลให้ประชาชนของเราได้สร้างรายได้อย่างที่เคยเป็นมา รัฐบาลก็ต้องนึกถึงโอกาสของพวกเขาเป็นลำดับแรก
แม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะอยู่ในซีกฝ่ายค้านในวันนี้ แต่ผมในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ยืนยันเสมอว่า พรรคพร้อมที่จะให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล หากนโยบายนั้นเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชน วันนี้ขอให้พรรคภูมิใจไทยได้สนับสนุนการถอนญัตติกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และได้ยินการประกาศยกเลิกนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลชุดนี้ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเถิดครับ พรรคภูมิใจไทยพร้อมยกมือเห็นด้วย และเชื่อว่าสิ่งที่เป็นมงคลก็จะเกิดขึ้นกับรัฐบาล และประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราในที่สุด
ข่าว
9 ก.ค. 2568 15:42 51 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 15:36 29 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 15:26 71 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 14:50 57 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 14:38 42 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 13:55 64 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 13:40 59 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 13:40 64 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 13:32 81 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 13:22 65 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 12:48 77 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 12:32 114 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 12:31 120 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 12:03 71 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 12:01 91 views
ข่าว
9 ก.ค. 2568 11:28 113 views