วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568
20 ส.ค. 2568 13:24 | 109 view
@pracha
ภูมิธรรม มอบนโยบายเดินหน้าแก้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ย้ําแก้คนเดียวไม่ได้ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือ แจงปัญหากัมพูชาทําแก้ปัญหาหยุดไปช่วงหนึ่ง ยันรัฐพร้อมสนับสนุนเครื่องมือ ลั่นความรู้สึกของปชช.เป็นคําตอบความสําเร็จ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 09.20 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ เดินทางมาขึ้นเครื่องเพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ที่ จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ เพื่อเตรียมเดินทางไปมอบนโยบายปฏิบัติการ “No Drugs No Dealers สู่ Zero Drugs Thailand” พร้อมทั้งติดตามการปฏิบัติการและแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติด ที่กองบัญชาการตํารวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่
โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 5 ให้การต้อนรับ
จากนั้น เวลา 10.10 น. ที่ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ตํารวจภูธรภาค 5 ทาง พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 5 ได้รายงานสรุปผลการดําเนินงานปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ในปีงบประมาณพ.ศ.2568 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.67-18 ส.ค.68 โดยสามารถจับกุมยาบ้าได้ 222,091,726 เม็ด ไอซ์ 11,462.83 กิโลกรัม เคตามีน 1,842.92 กิโลกรัม เฮโรอีน 197.92 กิโลกรัม และฝิ่น 155.88 กิโลกรัม สามารถจับกุมคดียาเสพติดทุกข้อหา จํานวน 22,467 ข้อหา ผู้ต้องหา 20,265 คน จับกุมตามหมายจับ 984 หมาย ผลการดําเนินคดีข้อหาสมคบ/สนับสนุน 376 คดี ผลการดําเนินคดีข้อหาฟอกเงิน 16 คดี
พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ยังระบุถึงปัญหาอุปสรรคว่า ปีนี้จับกุมยาบ้าได้เป็นจํานวนมาก คดีไหนที่จับกุมได้เกิน 1 ล้านเม็ดจะต้องส่งไปที่สํานักงานป.ป.ส.ที่ทุ่งสองห้อง แต่คิวการตรวจใช้เวลานานมาก บางคดีเกินเวลาที่ต้องไปฝากขัง ทําให้มีผลเสียต่อรูปคดี
นายภูมิธรรม กล่าวมอบนโยบายว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่มีการจัดการตามนโยบายยาเสพติด สําหรับปัญหายาเสพติด สังคมไทยรับรู้ได้ว่ายาเสพติดเป็นเรื่องเร่งด่วน เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมและประเทศชาติของเราโดยเฉพาะพี่น้องประชาชน จนถึงปัจจุบันประชาชนรู้สึกว่าปัญหาเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ทําให้เกิดความแตกแยกในสังคม พ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่ ทําให้เกิดปัญหาที่พัวพันในสังคมหลายส่วน ครอบครัวแตกแยก เราไม่เกิดสภาพแบบนี้ ดังนั้นที่เรากําหนดให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทํา ทั้งสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทยกระทรวงกลาโหม ซึ่งพร้อมที่จะบูรณาการทุกภาคส่วนมาช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องที่ทําคนเดียวไม่ได้ ทุกภาคส่วนต้องร่วมกัน ขณะนี้แนวโน้มกําลังดีขึ้น
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งสําคัญคือขณะนี้เราเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย เป็นนโยบายของรัฐบาล เราจะจับกุมได้มากขึ้นเพราะเรามีเครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้น สมัยนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ท่านได้อนุมัติรถเอกซเรย์ยาเสพติดเคลื่อนที่ ได้มาแล้ว 5 คัน คาดว่าอีกสองเดือนได้ของ ก็คงจะช่วยทําให้การจัดการสกัดกั้นทําได้ดีขึ้น เข้าใจว่าอยู่ที่ภาคเหนือและภาคใต้ ยังขาดที่ภาคอีสาน ทราบมาว่าขณะนี้ได้ทําเรื่องขอไปอีกสี่คัน ก็ไม่มีปัญหา จะอนุมัติให้เพื่อให้มีเครื่องมือ เพราะยาเสพติดเป็นปัญหาสําคัญอย่างยิ่ง
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า รัฐบาลกําหนดนโยบายและมาตรการที่เข้มข้นครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ําและปลายน้ํา เรามีมาตรการป้องกัน ป้องปราม ปราบปราม เราจะทําควบคู่กับการตรวจสอบสถานบันเทิงสถานมั่วสุมต่างๆ รวมทั้งให้ความสําคัญกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพลด้วย ในส่วนของการป้องกันเราเน้นสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนและประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนและสถานศึกษา ซึ่งฝ่ายปกครองรับนโยบายเพราะกระทรวงมหาดไทย เรามีกลไกตั้งแต่ผู้ว่าฯ นายอําเภอ กํานันไปจนถึงผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งชรบ.7 แสนกว่าคนเข้าเอกซเรย์ถึงชุมชน เชื่อว่าสถานการณ์จะเบาบางลง
“ยาเสพติดเป็นปัญหาบั่นทอนทรัพยากรของประเทศ ขอฝากเรื่องนี้ให้ทุกคนช่วยกันดู กระทรวงมหาดไทยก็ต้องเข้มแข็งเพื่อประสานงานกับหน่วยงานอื่น สิ่งที่สําคัญคือนโยบายของรัฐบาลเน้นการจัดการขั้นเด็ดขาด เป็นเรื่องที่เราจะไม่ปล่อยปละละเลย เราจัดการผู้ค้ารายใหญ่ ยาเสพติดข้ามชาติ ถือเป็นเรื่องที่ต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพราะยาเสพติดส่วนใหญ่มาจากแหล่งภายนอก พัฒนาโดยรวมกลุ่มชาวบ้านชายแดน 7-8 คน ผลิตวันหนึ่งได้เป็น 1,000,000 เม็ดก็ทําได้ หากไม่จัดการปัญหาจะบานปลายไปเรื่อยๆ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ต้องกําจัดยาเสพติดให้สิ้นซากไปจากสังคมไทย“ นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนการบําบัดรักษาฟื้นฟูต้องร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ต้องดําเนินการให้ครบถ้วน ฝากทางผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยกันทําตรงนี้ จะทําเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ไม่ได้ ถ้าทําตรงนี้ได้จะสามารถคืนทรัพยากรบุคคลให้ประเทศชาติได้อีกมาก
ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องกัมพูชา การแก้ปัญหาเลยหยุดไปช่วงหนึ่ง ต่อไปก็ต้องเดินหน้าตรวจสอบสถานบันเทิงผิดกฎหมาย หากใครทําได้ดีควรจะมีรางวัลให้ โดยให้ ป.ป.ส.ไปดู ทําดีเราก็สนับสนุนส่งเสริม ถ้าทําบกพร่องก็มีปัญหา
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สําหรับภาพรวมการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดตามบัญชีรายชื่อที่สํารวจทั่วประเทศ จับกุมแล้ว 16,800 คน ยังเหลืออีกประมาณ 4,000 คน ในด้านการบําบัดรักษาก็นําเข้าสู่การบําบัดรักษาแล้ว 140,000 คน ยังอยู่ระหว่างการรอบําบัดประมาณ 68,000 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ก็ถือเป็นยอดที่มีการพัฒนาขึ้น
“เหนือสิ่งอื่นใดความรู้สึกของประชาชนเป็นคําตอบของความสําเร็จ ตัวเลขไม่ใช้คําตอบสูงสุดแต่ถ้าประชาชนบอกว่า ดีมาก ยาเสพติดหมดไป มีความสุข นั่นคือผลสําเร็จของการทํางาน” นายภูมิธรรม กล่าว
ข่าว
20 ส.ค. 2568 15:56 32 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 15:51 41 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 14:38 70 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 14:29 63 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 14:26 71 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 13:34 71 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 13:28 85 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 13:24 110 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 13:11 70 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 12:06 70 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 11:29 101 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 11:08 112 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 10:20 115 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 10:01 106 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 09:59 147 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 09:57 109 views