วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568
20 ส.ค. 2568 13:34 | 72 view
@pracha
เลื่อนพิพากษา คดีนปช.ไล่นายกมาร์ค ปี 52 เป็น 7 ต.ค.นี้ เหตุมีจําเลยหลบหนี - สส.ติดประชุมสภา เต้น ยันอิ๊งค์ไปไต่สวนศาลรธน. กับตู่ เมื่อเวลาเปลี่ยน แนวทางการต่อสู้ย่อมเปลี่ยนไป
วันที่ 20 สิงหาคม ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคําพิพากษาคดี หมายเลขดําอ.968/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (ปธ.นปช.) พร้อมแกนนํา นปช. คนอื่นๆ รวม 10 คนเป็นจําเลย 1-10 ในความผิด ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่10 คนขึ้นไป สร้างความกระด้างกระเดื่องก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ,ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 31 ม.ค. - 9 เม.ย. 52พวกจําเลยร่วมกันชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปิดทางเข้าออกทําเนียบรัฐบาล เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ รวมถึงมีผู้ชุมนุมบางส่วนบุกไปยังบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี(ขณะนั้น) เพื่อกดดันให้ พล.อ.เปรม พร้อมด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ลาออกจากองคมนตรีรวมทั้งการปิดล้อมสถานที่ราชการสําคัญๆหลายแห่งในกทม .
สําหรับจําเลยทั้ง 13 คนประกอบด้วย
1.นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์
2.นายจตุพร พรหมพันธุ์
3.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
4.นพ.เหวง โตจิราการ
5.นายสิระ หรือสรวิชญ์ พิมพ์กลาง แกนนําคนเสื้อแดง จ.สกลนคร
6.นายนายณรงศักดิ์ มณี
7.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท
8.นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์
9.นายพายัพ ปั้นเกตุ
10.นายพงศ์พิเชษฐ์ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง
11.นายอดิศร เพียงเกตุ
12.นายพีระ พริ้งกลาง (เสียชีวิต)
13.นายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตนักแสดงชื่อดัง
จําเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลานัด ศาลนั่งบัลลังก์พิจารณา นายประกันของ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แจ้งต่อศาลว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมสภา ซึ่งนายอดิศร ต้องเข้าร่วมประชุมจึงขอเลื่อนฟังคําพิพากษาออกไปก่อน1นัด ในส่วนของ นายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาพล จําเลยที่10 ทราบนัดแล้ว แต่ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลเห็นว่ามี พฤติการณ์จะหลบหนีให้ออกหมายจับ ปรับนายประกัน และให้นัดฟังคําพิพากษาวันที่ 7 ตุลาคมนี้ เวลา 09.00 น. พร้อมทั้งกําชับให้จําเลยทุกคนมาศาลตามนัด หากจําเลยคนใดไม่มาศาล ศาลจะพิจารณาเพิกถอนการประกันตัว
ภายหลังนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า คดีนี้มีจําเลยทั้งหมด 12 คน จากทั้งสิ้น 13 คนเสียชีวิ 1 ราย วันนี้มีจําเลยมาศาล 9 ราย อีก 2 รายคือนายพีระ จําเลยที่ 12 และนายพงษ์พิเชษฐ์ จําเลยที่ 10 ทนายความแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อได้สักพักแล้ว ส่วนนายอดิศร จําเลยที่ 11 ติดประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่สามารถมาฟังคําพิพากษาได้ โดยศาลให้ออกหมายจับนายพงศ์พิเชษฐ์ และปรับนายประกัน และเนื่องจากว่าคดีนี้ใช้นายประกันคนเดียวกัน ตนจึงประสานนายประกันและทนายความแถลงต่อศาลขอให้พิจารณาปรับนายประกันโดยหักยอดเฉพาะจําเลยที่ 10
เมื่อถามว่าคดีนี้เป็นคดีเดียวกันกับการก่อการร้ายของ กลุ่มนปช.หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เป็นคนละคดีกันคดีนั้นเกิดขึ้นที่สะพานผ่านฟ้าในเดือน เมษายน2553 และได้สู้คดีจนคดียุติไปแล้ว
เมื่อถามว่าบรรยากาศในห้องพิจารณาคดีวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง และได้คุยกับนายจตุพรหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ได้มีการทักทายกันตามปกติ เพราะปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าตน นายจตุพรและแกนนําคนอื่นได้ร่วมต่อสู้ทางการเมืองมาด้วยกัน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปก็อาจจะมีความเห็นและทิศทางทางการเมืองแตกต่างกันบ้าง และตนเชื่อว่าแกนนํารายอื่นก็คิดแบบตนว่าจะเอาอุดมการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันไปทําลายความเป็นมิตรที่เคยต่อสู้ร่วมกันมาไม่ได้ แต่ตนก็ไม่ได้คุยเรื่องทางการเมืองกับใครเท่าไหร่นอกจากการถามเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของนายวีระกานต์เท่านั้น
เมื่อถามว่าปัจจุบันยังได้มีการหารือทางการเมืองกับนายจตุพรหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่มีการหารือเป็นส่วนตัวหรือนัดหมายพบกันเป็นส่วนตัวอย่างแน่นอน แต่อย่างที่ได้บอกไปว่าตนและนายจตุพรร่วมเป็นร่วมตายกันมาตั้งแต่การชุมนุมในครั้งนั้น และในทางส่วนตัวไม่มีความรู้สึกเป็นศัตรูกับนายจตุพร แต่ในทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนอยู่คนละขั้วกัน
เมื่อถามว่าในวันที่ 22 สิงหาคมจะมีการพิพากษาคดีม.112 ของนายทักษิณ ชินวัตร จะเข้ามาให้กําลังใจหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนคงไม่ได้มาในวันนั้นแต่ก็ขอให้กําลังใจนายทักษิณ และส่วนตัวมีความเห็นอยู่ 2 ประการ โดยประการแรกตนคิดว่าการแจ้งข้อหาตามม.112 ต่อนายทักษิณ ถ้าดูจากสถานการณ์ในเวลานั้นเห็นว่าเป็นกระบวนการทางการเมืองที่มุ่งใช้กฎหมายมาตรานี้เล่นงานฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และประการที่ 2 ตนมองว่า ไม่ใช่เฉพาะคดีนายทักษิณเท่านั้น แต่ใครก็ตามไม่ควรใช้กฎหมาย ม. 112 เป็นเครื่องมือทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตนหรือฝ่ายตรงข้าม เพราะว่าวิถีทางความขัดแย้งทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยย่อมเกิดขึ้นได้ แต่การนํากฎหมายที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในความขัดแย้งทางการเมืองไม่ควรเกิดขึ้น
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ในส่วนของประเด็นของน.ส.แพทองธาร ชินวัตรนั้น ตนขอให้กําลังใจกับนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางไปชี้แจงด้วยตนเอง และมีความเชื่อมั่นถึงเจตนาและวิธีการที่เกิดขึ้นในคบิปเสียงดังกล่าวที่ตั้งใจจะรักษาสันติภาพไม่ให้บายปลาย แต่ทุกอย่างล้มลงเพราะมีการแอบอัดเสียงและปล่อยออกมาเพื่อทําลายเสถียรภาพทางการเมืองของไทย ตนจึงมองว่าคนที่จะขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรงน่าจะเป็นผู้ที่ปล่อยคลิปเสียง และหาก น.ส.แพทองธารพ้นจากตําแหน่งด้วยเรื่องนี้ ฝ่ายที่จงใจปล่อยคลิปเสียงจะมองว่าเป็นความสําเร็จทางการเมืองหรือไม่ และถ้าศาลจะมีคําสั่งออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับดุลพินิจของศาล
ข่าว
20 ส.ค. 2568 15:56 34 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 15:51 45 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 14:38 72 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 14:29 64 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 14:26 72 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 13:34 73 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 13:28 87 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 13:24 111 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 13:11 72 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 12:06 73 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 11:29 102 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 11:08 113 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 10:20 116 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 10:01 107 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 09:59 149 views
ข่าว
20 ส.ค. 2568 09:57 118 views