กระทรวงสาธารณสุขพร้อมหลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบวัดพระบาทน้ําพุ เข้มงวดมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วย HIV พร้อมตรวจสอบการเบิกจ่ายงบฯ–การใช้ยา–สถานะอาคาร

วันที่ 20 สิงหาคม 2568 - นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, กรมอนามัย และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบการดูแลผู้ป่วยของ วัดพระบาทน้ําพุ

การตรวจสอบครอบคลุมสถานชีวาภิบาล อาคารเมตตาธรรม และอาคารรักษาผู้ป่วย HIV โดยแยกหน้าที่รับผิดชอบชัดเจน เช่น สปสช. ตรวจสอบการเบิกจ่ายงบฯ ดูว่ามีการเบิกถูกต้องหรือไม่ อย. ตรวจสอบยาที่ใช้กับผู้ป่วยว่าถูกต้องตามกฎหมาย กรมการแพทย์แผนไทยตรวจสอบพื้นที่ปลูกและผลิตกัญชา ขณะที่กรมอนามัยตรวจสอบมาตรฐานด้านสุขลักษณะและการจัดการขยะติดเชื้อ  ผลการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบความผิดปกติร้ายแรง แต่มีข้อแนะนํา เช่น ให้ทางวัดพิจารณาจัดตั้งมูลนิธิหรือลงทะเบียนอาคารเป็นสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง กรณีอาคารเมตตาธรรมที่ถูกปล่อยรกร้างและมีอุปกรณ์ทางการแพทย์จํานวนมาก จะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการเก็บรักษาศพที่วัด โดยพบศพกว่า 20 ศพถูกเก็บรักษามายาวนาน ซึ่งเข้าข่ายการกํากับดูแลตาม พ.ร.บ.ฌาปนสถานและสุสาน เบื้องต้นต้องดําเนินการฌาปนกิจตามกฎหมาย และให้ท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบ

สําหรับการดูแลผู้ป่วย HIV และผู้ป่วยติดเตียง กรมอนามัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุว่าเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ได้รับยาจากโรงพยาบาลพระนารายณ์อย่างถูกต้อง ส่วนผู้ป่วยที่ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้ พักรักษาตัวในพื้นที่บ้านพักของวัด

นายกองตรี ดร.ธนกฤต ย้ําว่า ศพที่เก็บไว้ต้องนําไปฌาปนกิจ และการตรวจสอบอาคารร้างที่คล้ายสถานพยาบาล ต้องรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม หากพบการดําเนินงานเข้าข่ายความผิดจะมีการดําเนินคดี พร้อมย้ําว่า การตรวจสอบครั้งนี้เพื่อความโปร่งใสและสร้างความมั่นใจให้กับสังคม