กพช. อนุมัติแพ็กเกจพลังงาน ลดต้นทุนผลิตไฟฟ้า พร้อมคุมค่าไฟบ้านไม่เกิน 3.94 บาท/หน่วย ช่วง ก.ย.–ธ.ค. 68

วันที่ 23 สิงหาคม 2568 - นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในรายการ “เสียงจากใจ ไทยคู่ฟ้า” เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เข้าร่วม ได้มีมติเห็นชอบมาตรการพลังงานครั้งสําคัญ เพื่อลดต้นทุนการผลิตและบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน

มาตรการเด่นที่ประชุม กพช. เห็นชอบ ได้แก่
- อนุมัติการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งลมและแสงอาทิตย์ เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในระบบ โดยให้เจรจากับภาคเอกชนภายใน 45 วัน และกําหนด SCOD ไม่เกินปี 2573
-อนุมัติขยายอายุโรงไฟฟ้าน้ําพอง ชุดที่ 1–2 ออกไปอีก 6 ปี (1 ม.ค. 2569 – 30 ก.ย. 2574) คาดช่วยลดต้นทุนสุทธิกว่า 28,358 ล้านบาท
-เห็นชอบแนวทางบริหารจัดการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โดยเลื่อนการปลดเครื่องที่ 8 และ 11 ไปถึงสิ้นปี 2574 พร้อมปรับปรุงเครื่องที่ 12–13 ใช้งานต่อถึงปี 2591 เพื่อลดการลงทุนใหม่ ลดการนําเข้า Spot LNG และกดค่า Ft ลงเฉลี่ย 3.67 สตางค์/หน่วย หรือประมาณ 9,566 ล้านบาทต่อปี
-อนุมัติให้ ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยแบบอัตราปกติ จ่ายค่าไฟไม่เกิน 3.94 บาท/หน่วย ตั้งแต่งวดกันยายน–ธันวาคม 2568 มอบ สนพ. และ กกพ. ทบทวนเกณฑ์เพดานใช้ไฟ เพื่อให้ครอบคลุมและเป็นธรรม
-ยืนยันราคาขายไฟฟ้าแก่ประเทศเพื่อนบ้านต้องไม่ต่ํากว่าภายในประเทศ เพื่อไม่กระทบต้นทุนค่าไฟคนไทย
-คงโครงสร้างระบบไฟฟ้าแบบ Enhance Single Buyer (ESB) ยกเลิกแผนแยก SO ออกจาก กฟผ. และเดินหน้าโครงการ Demand Response (DR) เพื่อควบคุมต้นทุนและลดการนําเข้า LNG

รองโฆษกรัฐบาลย้ําว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วย ลดค่าครองชีพประชาชน เพิ่มเสถียรภาพพลังงานของประเทศ และสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในระยะยาว