‘วราวุธ’หนุนยุบสภาคืนอํานาจประชาชน ผ่าทางตันทางการเมือง ยันยึดสัจจะตามที่ ‘พ่อบรรหาร’ทํามา ยังให้ ‘เพื่อไทย’ เป็นแกนนําตั้งรัฐบาล

เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ทําเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) กล่าวถึงวาระประชุมครม. มีการหารือเรื่องการยุบสภาหรือไม่ว่า ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่การยุบสภาหรือไม่เป็นสิทธิของนายกฯ ไม่ใช่การตัดสินใจของครม.

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยหรือไม่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลหากจะมีการยุบสภาในเวลานี้ได้ นายวราวุธกล่าวว่า ตนคิดว่าแล้วแต่ดุลพินิจของผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯว่ามีดุลพินิจอย่างไร ควรหรือไม่ควร ส่วนตัวของตนยังไม่มีความเห็น

ถามว่า พรรคชทพ.ตัดสินใจหรือยังว่าจะอยู่พรรคสีน้ําเงินหรือสีแดง นายวราวุธกล่าวว่า การทํางานของพรรคชาติไทยจนมาเป็นพรรค ชทพ.ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราได้รับเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย (พท.) มาทํางานร่วมรัฐบาล พอเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อ ปี 67 คณะกรรมการบริหารพรรคได้ประชุมกันและมีมติว่า

“เรายึดถือแนวทางปฏิบัติเดิมคือ เราได้รับคําเชิญตกปากรับคําแล้วเราก็ทํางานอยู่ร่วมกันจนจบ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น พอมาถึงตอนนี้ที่ประชุมพรรคได้มีการพูดคุยกับสส.ทุกคน แล้วว่าเรายังยึดถือแนวทางเดิมว่าการที่พรรค พท.เป็นพรรคแกนนําจัดตั้งรัฐบาล ส่งเทียบเชิญมาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เรายังให้พรรค พท.เป็นคนดําเนินการอยู่“ นายวราวุธ กล่าว

เมื่อถามว่า ได้รับการติดต่อจากพรรคภูมิใจไทย(ภท.) บ้างหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าคงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว พรรค ชทพ. เรามีอยู่ไม่กี่คนก็จริง แต่ให้เกียรติสมาชิกทุกคน และผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคทุกคนในการหารือกัน

ถามว่า มองสถานการณ์ในวันนี้ถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้มีการยุบสภา หากยุบสภาแล้วสุ่มเสี่ยงมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตีความตรงนี้มองว่าควรจะเป็นอย่างไรต่อไป นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคิดว่าเวลามีปัญหาให้ประชาชนทั้งประเทศตัดสินใจ น่าจะเหมาะสม

เมื่อถามว่า แสดงว่าเห็นด้วยกับการยุบสภา นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจดีกว่า ถามย้ําว่า คืนอํานาจให้กับประชาชนใช่หรือไม่ นายวราวุธ ตอบว่า ใช่ครับ คืนอํานาจให้กับประชาชน

“เรายึดถือ สิ่งที่พ่อบรรหาร ศิลปอาชา นายกฯคนที่ 21 ทํามา เราก็เข้าใจรู้จักกัน เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น แต่ว่าผมยึดสิ่งที่พ่อทําเป็นหลักเอาไว้ก่อน”นายวราวุธ กล่าว