วันอังคารที่ 9 กันยายน 2568
9 ก.ย. 2568 11:02 | 130 view
@pracha
หอค้าไทยโอดบาทแข็งค่ารุนแรง สวนทางเศรษฐกิจจริง กระทบหนักต่อภาคธุรกิจ จี้รัฐเร่งแก้ไข
เมื่อวันที่ 9 กันยายน นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องจนแตะระดับ 31.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการแข็งค่าที่รวดเร็วและรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี และสวนทางกับทิศทางเศรษฐกิจจริงของประเทศ ซึ่งการแข็งค่าดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม ซึ่งเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
“ภาคการส่งออก ต้องเผชิญการแข่งขันที่ยากลําบาก เนื่องจากราคาสินค้าไทยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง ส่งผลต่อยอดขายและรายได้จากต่างประเทศ ขณะที่ ภาคการท่องเที่ยว ความแข็งค่าของเงินบาททําให้ประเทศไทยมีต้นทุนการท่องเที่ยวสูงขึ้นในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ ลดแรงจูงใจในการเดินทางมาไทย ส่วน ภาคเกษตรกรรม เกษตรกรไทยที่พึ่งพาการส่งออกได้รับผลกระทบหนักจากต้นทุนและรายได้ที่ไม่สอดคล้องกับค่าเงิน โดยเฉพาะข้าวนาปี และพืชไร่ที่กําลังจะออกมา”
นายพจน์กล่าวว่า ปัจจัยที่ทําให้เงินบาทแข็งรุนแรงกว่าประเทศอื่นนั้น นอกจากปัจจัยในประเทศแล้ว แต่เป็นผลมาจาก 1. เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในระยะต่อไป ทําให้ค่าเงินของหลายประเทศในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นโดยอัตโนมัติ 2.ปัจจัยด้านทองคํา ประเทศไทยมีการถือครองทองคําจํานวนมาก และราคาทองคําในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทําให้เกิดการขายทองคําออกมาเป็นเงินตราต่างประเทศ และแปลงกลับเป็นเงินบาท ส่งผลให้มีความต้องการเงินบาทเพิ่มขึ้น ทําให้เงินบาทแข็งค่ามากกว่าประเทศคู่ค้าอย่างผิดปกติ รวมถึงมี fund flow ที่เข้ามาประเทศด้วย ซึ่งอาจจะมาจากพวก Crypto ด้วย
ขณะที่ ปัจจัยภายนอกที่ซ้ําเติมความเปราะบาง ได้แก่ 1.มาตรการภาษีตอบโต้ (tariff) ที่หลายประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป กําลังทบทวนหรือพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งจะกระทบความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและยิ่งซ้ําเติมผลกระทบจากเงินบาทแข็ง 2.ข้อจํากัดด้านการแทรกแซงค่าเงิน การที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปดูแลค่าเงินบาทอย่างเข้มข้นอาจทําให้ไทยถูกเพ่งเล็งว่า “บิดเบือนค่าเงิน” โดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับ การเจรจาภาษีการค้าและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย–สหรัฐฯ ที่กําลังดําเนินอยู่ จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องวางนโยบายอย่างรอบคอบ
นายพจน์กล่าวว่า หอการค้าอยากเสนอแนะให้ดําเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ดังนี้ โดยที่ผ่านมา หอการค้าไทยและคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) เคยเสนอแนวทางว่า ควร แยกดุลทองคําออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถประเมินผลกระทบต่อค่าเงินได้ตรงจุด พร้อมทั้งเสนอให้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาจัดการดูแลในส่วนนี้อย่างเป็นระบบ เพราะหากปล่อยให้กลไกค่าเงินผันผวนโดยไม่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจไทย จะทําให้ผู้ประกอบการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับประเทศคู่ค้า
“หากปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ แม้ภาครัฐจะใช้เงินทุนสํารองเข้ามาแทรกแซงเพื่อรักษาอัตราแลกเปลี่ยน ก็อาจต้องใช้เงินจํานวนมากและเสี่ยงต่อการสูญเปล่าโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง”
นายพจน์ กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จึงขอเรียกร้องให้ รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย เร่งพิจารณามาตรการที่เหมาะสมอย่างเร่งด่วน เพื่อดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจจริงและไม่บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย
“เงินบาทที่แข็งค่าเกินไป ไม่ได้สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจไทย แต่กลับทําลายขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เราจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดําเนินการอย่างเร่งด่วน” นายพจน์ กล่าว
ข่าว
9 ก.ย. 2568 16:38 101 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 16:27 94 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 16:26 82 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 16:19 92 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 16:18 73 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 16:16 94 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 16:04 106 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 16:01 206 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 15:53 948 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 15:51 57 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 15:43 98 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 15:14 114 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 15:14 90 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 14:55 189 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 14:44 96 views
ข่าว
9 ก.ย. 2568 14:23 95 views