ไม่ว่าจะวงการหนังสือ วิศวกรรม หรือแวดวงธุรกิจ ในช่วงนี้ เรื่องที่ทุกคนต้องเคยผ่านตา เคยหาข้อมูลต้องเป็นเรื่อง “ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือ Artificial Intelligence” และ AI ที่ฮอตที่สุดตอนนี้ ไม่พูดถึงเลยไม่ได้ก็ต้องเป็น  “ChatGPT” ซึ่งในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักและเข้าใจ ChatGPT  ให้มากขึ้นกันว่าทำไม AI นี้จะเปลี่ยนโลกการทำงานแบบหน้ามือเป็นหลังมือ   มาทำความรู้จัก ChatGPT กัน  ChatGPT เป็นแชทบอท (ระบบตอบแชทข้อความ) ที่สร้างไว้ล่วงหน้า โดยใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ประเภทหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับผู้ช่วยเสมือนโดยใช้ภาษาธรรมชาติ GPT ย่อมาจาก "Generative Pre-training Transformer" ซึ่งเป็นโมเดลของภาษาที่พัฒนาโดย OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งโดย Elon Musk และ Sam Altman ในปี 2015 โดยบริษัทนี้มุ่งพัฒนาและควบคุมปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา   ทำไม ChatGPT ถึงพิเศษ?  คุณลักษณะสำคัญประการหนึ่งของแชท GPT คือความสามารถในการสร้างการตอบกลับทันที โดยอิงตามข้อมูลของผู้ใช้ที่กรอกลงไป Chat GPT ใช้เทคโนโลยี Deep Learning ที่จำลองรูปแบบการประมวลผลของสมองมนุษย์ เมื่อได้รับข้อมูลมา Deep Learning จะทำการแบ่งแยกข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ  แล้วนำมาประมวลผลข้อมูลในเชิงลึกแล้วสรุปผลลัพธ์ออกมาพร้อมทั้งตรวจสอบว่าข้อมูลนั้นผิดหรือว่าถูกกันแน่ โดย AI ของ ChatGPT จะรวบรวมข้อมูลทุกอย่างมาเป็นคำตอบให้ คำอธิบายแสนง่ายให้คุณได้ภายในเวลาเพียงไม่นาน ซึ่งเป็นความสามารถที่มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก  ChatGPT ถูกพัฒนาให้สามารถนำเสนอชุดข้อมูลจากข้อความที่มนุษย์สร้างขึ้น และสามารถสร้างข้อความในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการตอบกลับทางแชท ข้อความที่ได้จากการที่เราพิมพ์ถาม ChatGPt จึงมีความเป็นธรรมชาติ และ AI นี้ตอบคำถามได้เหมือนเขียนโดยมนุษย์ทั่วๆ ไปเลยทีเดียว    ตัวอย่าง 9 ความสามารถสุดมหัศจรรย์ของ ChatGPT 

1. คิด Keyword สำหรับการทำ SEO ได้ทุกแนวและทุกภาษา
2. เขียนคำโฆษณา บทความ กลอน บทละคร พาดหัวข่าว เรียงความในระดับมหาวิทยาลัยได้ทุกแนวและทุกภาษา
3. ตอบคำถามทางปรัชญาสุดลึกล้ำ
4. เขียนเรซูเม่หรือจดหมายแนะนำตัว
5. อธิบายความหมายหรือหัวข้อที่มีความซับซ้อนสูง
6. แก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากและซับซ้อน
7. เขียนเพลงได้ทุกแนว
8. เขียน แก้บั๊ก และอธิบายโค้ด Python, SQL, JSX, React app, Figma, javascript, CSS, HTML, LaTeX
9. สามารถโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ 

  ทำไมแชทบอท AI นี้ถึงจะเปลี่ยนโลก หลังจากการปล่อย ChatGPT มาให้ลองใช้ ก็เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าโลกยังไม่พร้อมกับเทคโนโลยีที่เป็น "disruptor” หรือ “ตัวเขย่าวงการ" เพราะความเร็ว แรง และไว จนถึงกับมีคนทวีตว่า ‘Google is dead’ ในแฮชแท็กของ #ChatGPT เลยทีเดียว ในส่วนวงการศึกษา และการตลาด และโฆษณา ความสามารถในการประมวลผลของ ChatGPT ก็สูงมาก ถึงขนาดที่สอบเขียนโค้ด หรือตอบข้อสอบระดับมหาวิทยาลัยได้คะแนนเต็มเลยทีเดียว รวมทั้ง AI ChatGPT นี้ยังใช้ภาษาเขียนข่าว บทความแบบธรรมชาติ ลื่นไหลระดับนักข่าว นักหนังสือพิมพ์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ChatGPT นั้นยังประมวลผลภาษาไทยได้ไม่เร็วเท่ากับใช้ภาษาอังกฤษในการป้อนคำสั่งลงในช่องแชท แต่ถ้าต้องการใช้ประโยชน์ก็ยังสามารถใช้ในการเริ่มต้นไอเดียทำงานตามที่กล่าวไปข้างต้นได้    ข้อจำกัดของ ChatGPT   ChatGPT ยังมีข้อจำกัดเรื่องของการคัดลอก และปัญหา plagiarism (คัดลอก ปลอมแปลง บิดเบือนผลงานผู้อื่นเล็กน้อย) ยังมีความเอนเอียงที่จะแสดงข้อมูลที่ AI ส่วนใหญ่หาได้ การตอบกลับถึงภาษายังเป็นธรรมชาติ แต่ยังไม่มีเหตุผล และในบางครั้งคำตอบก็เข้าใจยากมาก ต้องนำมาตีความ นอกจากนี้ผลงานเชิงสร้างสรรค์ที่ได้จาก ChatGPT ยังไม่เฉียบแหลมในไอเดียใหม่ๆ มากนัก จึงไม่มีจุดเด่นในงานที่ส่งออกมาทำให้ยังต้องนำปรับเปลี่ยน และทำให้ในตอนนี้ ChatGPT ยังอยู่ในจุดที่สามารถใช้เป็นสารตั้งต้นในไอเดียและนำไปปรับใช้ต่อไป   สรุปแล้ว ChatGPT เป็นอีกหนึ่งในความท้าทายแทบจะทุกสายอาชีพเลยทีเดียว ไม่ว่าจะคนรุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ต้องทำความเข้าใจอย่างยิ่งและต้องนำ ChatGPT มาปรับใช้ในการทำงานในแวดวงใดก็ตามเพื่อประโยชน์สูงสุด ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่าทุกสาขาอาขีพจะสามารถใช้ประโยชน์จาก ChatGPT โดยที่ไม่ถูกทำให้หายไปจากโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างไรต่อไป