วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568
30 ก.ย. 2568 13:06 | 727 view
@pracha
'ศุภวุฒิ' เสนอทางรอดประเทศ ต้องปลดล็อก นําเงินทุนสํารองระหว่างประเทศ 9 ล้านล้านบาทมาใช้
30 ก.ย.2568-สํานักข่าวไทยพับลิกก้า จัดงานเสวนาหัวข้อ “ปีะเทษไทยต้องรอด Save Thailand Restores, Reframe, Rises “ โอกาสนี้ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานคณะกรรมการสํานักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) กล่าววา จีดีพี การขยายตัวทางเศรษฐกิจประเทศไทยลดลงมาตลอด สวนทางกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ปัญหาเศรษฐกิจที่ขยายตัวลดลง เห็นได้จากยอดข่น เทียบกับในอดีตช่วงปี1991-1996 ยอดจายไทยโต 13% ช่วงโควิดยอดขายเหลือโต 2% ขณะเดียวกันการขาดดุลงบฯก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การขาดดุลงบฯสอดคล้องกับจีดีพีที่ลดลงต่อเนื้องตั้งแต่ช่วงหลังโควิด สวนทางกับดึลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลมาตลอด ซึ่งไม่ใช่สิ่งดี เพราะสะท้อนให้เห็นว่ากําลังซื้อในประเทศลดต่าลง แต่ในเวลาเดียวกันกลับมีเงินทุนไหลออกจากประเทศต่อเนื่อง แสดงว่าประ้ทศไทยไม่ขาดแคลนเงินทุน แต่ส่งออกเงินทุนด้วยซ้ํา ทางด้านผู้ประกอบการก็ประสบกับความยากลําบาก ยอดขายลดลง แต่ภาระดอกเบี้ยไม่ลด ในปี 2024 เรามียอดขายเพิ่มขึ้น2.4% แต่ภาระดอกเบี้ยสูง 7.3%
ส่วนเอสเอ็มอี ก็ประสบปัญหาแบงก์ไม่ยอมปล่อยกู้ให้ ในปี2020 แบงก์ปล่อยก๔้เอสเอ็มอี 3.3 ล้านล้านบาท แต่ตอนนี้เหลือ 2.8 ล้านล้านบาท ทําให้สถานการณ์เอสเอ็มอั แย่กว่าช่วงโควิดเสียอีก

ในแง่ภาพใหญ่ของประเทศได้เปลี่ยนไป โครงสร้างผลิต ภาคอุตสาหกรรมลดลงแรงต่อเนื่อง ดังนั่นส่วนที่จะใช้ขับเคลื่อนได้ต้องเป็นภาคบริการ เราต้องปรับพัฒนาประเทศให้เป็นภาคบริการ มากขึ้น แทนภาคอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างจีน 40ปีที่แล้วมุ่งการผลิตเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมมาก ขณะนี้จีนจึงผลิตโอเวอร์มาก ผลิตสูงกว่าสหรัฐอเมริกา30 % แต่กลายเป็นจุดอ่อน ในเรื่องผลิตอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการ ต้องพึ่งพาการนําเข้า ซึ่งไทยควรใช้โอกาสนี้ ผลิตสินค้าเกษตรแปรรูปให้จีนเพิ่มขึ้น ปัจจุบ่นไทยส่งออกอาหารให้จีนเป็นอันดับ 5หรือ 6 ก่อนหน้านี้ ทีดีอาร์ไอ ก็ชี้ประเด็นนี้ โอกาสนี้ แต่เรากลับมีปัญหา เราสามารถแปรรูปสินค้าเกษตรได้ 8 ล้านตัน แต่ต้องนําเข้าวัตถุดิบ 12 ล้านตัน
ดร.ศุภวุฒิ เสนอว่า ไทยต้องปลดล็อกหลายด้านเพื่อสร้างทางรอด รวมทั้งการนําเข้าสินค้าเกษตร ต้องเปิดเสรีมากกว่านี้ิ ภาษีศุลกากรเราคิด 20% และยังมีภาษีอื่นๆ ทั้งๆที่นอกจากผลิตอาหารคนเรายังผลิตอาหาร หมา แมว ส่งออกไปยุโรปด้วยแต่เรากลับมีต้นทุนภาษีวีตถุดิบสูง เรามีต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูง
”ประเทศไทยต้องรอด เราต้องปลดล็อกตางนี้ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น เราต้องผลิตอาหารขายโลก แม้ปลดล็อกเรื่องนี้จะยากเพราะต้องเกี่ยวเนื่องกับเชิงการเมือง อย่างในเรื่องหมู อเมริกามีต้นทุนเลี้ยงภงถูกกว่าไทย เพราะราคาอาหารสัตว์ถูกกว่า ”
ดร.ศุภวุฒิ เสนออีกว่า ไทยควรมีการนําเงินทุนสํารองระหว่างประเทศมาใช้ประโยชน์ เรื่องนี้คนธนาคารแห่งประเศไทย ฟังแล้วอาจไม่พอใจ ตอนนี้เรามีทุนสํารอง 9 ล้านล้านบาท ซึ่งมากเกินไป เป็นการเก็บไว้เฉยๆไม่เกิดประโยชร์ ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ ไอเอ็มเอฟ เคยประเมินว่า เราควรมีทุนสํารองเท่าไหร่ โดยดูจากการส่งออก ปริมาณเงิน M2 ภาระหนี้ ระยะสั้น หนี้ต่างประเทศ และภาระหนี้อื่นๆ พบว่าไทยมีทุนสํารอง 239.2% ของ IRA หรือเกินไป 139% ถ้าดึงออกมา1แสนล้านเหรียญ หรือ 3.3ล้านยาท มาลงทุนตั้งเป็นกองทุนมั่งคั่ง เช่นเดียวกับ สิงคโปร์ ที่50 ปีที่แล้วที่เอาเงินทุนสํารองมาตั้งกองทุนทั่งคั่ง ปัจจุบันงอกเงยมีสินทรัพย์ 8 แสนล้านเหรียญ สามารถส่งรายได้เข้ารัฐ 20% ของทุกปั
“เราต้องปลดล็อกประเทศในส่วนนี้ เราสามารถนําเงินส่วนนี้มาลงทุนได้ เพื่อกระตุ้นภาคเอกชน และได้ผลตอบแทนไม่ต่ํากว่า 5-6% ดูจากกบข ที่ลงทุนต่างประเทศ 30-40%ของพอร์ต ”

ดร.ศุภวุฒิ ยังเสนอให้ปลดล็อกเรื่องของพลังงาน ลดการผูกขาดของกฟผ. ส่วนภาคโลจิสติกส์ โดยเฉพาะระบบรางที่จะมีบทยาทสําคัญมากขึ้น เพราะจีนหลีกเลี่ยงการขนส่งทางเรือด้วยเหตุผลเชิงยุทธศาสตร์ และหันมาขนส่งทางรางแทน ซึ่งไทยมีรางระยะทาง 4 พันกม. และมีแผนขยายเพิ่มเป็น 5,643 กม เราต้องรีบพัฒนาระบบราง เพื่อเชื่อมต่อโครงการเปอร์ริช แลนด์พอร์ต ของมาเลเซียที่ทําระบบมาถึงปาดังเบซาร์ เป้าหมายส่งออกไปถึงจีน แต่รฟท. มีข้อจํากัด มีหัวรถจักร 190 หัว แต่เป็นของเก่า จึงใช้ได้ 50% กีบระยะทาง 4 พัน กม
“กําลังมีกม ใหม่ ปลดล็อกให้เอกชนเดินรถได้ หรือเป็นการปลดล็อก 30ปี ของการรถไฟ การผูกขาดทางโลจิสติกส์ ”
ขณะที่ในภาคอุตสาหกรรมดร.ศุภวุฒิ กล่าวว่า ส่วนที่ต้องพัฒนาการผลิตได้อีกก็คือ พวกฮาร์ดดิส ไดร์ฟ พวกไมโครชิพ เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งไทยทําได้ดีได้รับการยอมรับระดับโลก
ในภาคบริการ ดร.ศุภวุฒิ กล่าวว่า ที่เด่นคือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งในแผนพัฒนาเศีษฐกิจฉบับ14 จะมีการบรรจุเรื่องนี้ว่าจะเป็นส่วนสําคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ข่าว
30 ต.ค. 2568 16:26 183 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:58 162 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:45 105 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:32 164 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:30 102 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:25 114 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:22 159 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 15:02 112 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 14:31 121 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 14:22 159 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 14:02 310 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 13:20 124 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 12:12 160 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 12:03 141 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 11:48 175 views
ข่าว
30 ต.ค. 2568 11:31 163 views