ครม.ไฟเขียวโครงการคนละครึ่งพลัส วงเงิน 4.4 หมื่นล้าน เปิดสิทธิประชาชน 20 ล้านคน รับเงินรัฐสูงสุด 2,400 บาท ผ่านแอป “เป๋าตัง” ใช้ได้วันละ 200 บาท ตั้งแต่ 29 ต.ค.–31 ธ.ค. 2568 ขยายอายุผู้มีสิทธิเหลือ 16 ปีขึ้นไป เพิ่มความสะดวกด้วยบริการฟู้ดเดลิเวอรี่

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” วงเงินรวม 44,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 2568 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ได้ราว 0.3–0.4%

โครงการนี้เปิดให้ ประชาชน 20 ล้านคนทั่วประเทศ เข้าร่วม โดยมีการขยายคุณสมบัติให้ผู้มีสิทธิต้องมีสัญชาติไทย อายุ ตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (จากเดิม 18 ปี) และ ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568 รวมถึงไม่เคยถูกระงับสิทธิจากโครงการคนละครึ่ง เฟสก่อนหน้า

ผู้มีสิทธิจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐแบบ 50:50 ผ่านแอป “เป๋าตัง” โดย ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ยื่นภาษี จะได้รับ 2,000 บาท/คน ตลอดโครงการ ผู้ที่ยื่นแบบภาษี จะได้รับเพิ่มเป็น 2,400 บาท/คน สามารถใช้จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00–23.00 น. ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิต้องใช้ครั้งแรกภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 มิฉะนั้นสิทธิจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ยังขยายสิทธิให้สามารถ สั่งอาหารผ่านแอปฟู้ดเดลิเวอรี่ ได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00–21.00 น. ผ่านแอป “เป๋าตัง” เพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล

สําหรับร้านค้าใหม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 19 ธันวาคม 2568 โดยต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทยและสมัครเป็นร้านค้าถุงเงิน พร้อมเตรียมเอกสารตามขั้นตอนที่กําหนด สําหรับร้านค้าที่เคยร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 สามารถเข้าร่วมได้ทันทีเพียงอัปเดตแอป “ถุงเงิน” เป็นเวอร์ชันล่าสุดและกดยอมรับเงื่อนไข

รัฐบาลตั้งเป้าให้โครงการนี้ช่วยกระตุ้นกําลังซื้อ เพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ และแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนในช่วงปลายปี