"เอกนิติ"  เตือนเศรษฐกิจไทยติด 4 กับดักใหญ่! ย้ํารัฐบาลมีเวลา 4 เดือนขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เห็นผลเป็นรูปธรรม แม้จะแก้ไม่ได้ทั้งหมด แต่เป็น “จุดเริ่มต้นที่ดี”   ชู "คนละครึ่งพลัส" เป็น Quick Win พร้อมวางรากฐานระยะยาว เร่งพัฒนาแรงงาน-เข้าถึง AI

นาย เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน Out of The Trap : Thailand Economic Outlook 2026 ว่า รัฐบาลมีเวลาเพียง 4 เดือน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยต้องเร่งดําเนินนโยบายในลักษณะ “Quick Win” หรือทําทันที เพื่อให้ประชาชนสัมผัสผลลัพธ์ได้ในระยะสั้น พร้อมวางรากฐานให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว

 “ 1 ในมาตรการสําคัญคือ “โครงการคนละครึ่งพลัส” ที่จะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และเปิดโอกาสให้ร้านค้าขนาดเล็กเข้าถึงรายได้มากขึ้น โดยกระทรวงการคลังเตรียมอบรมทักษะด้านดิจิทัลและภาษีให้ร้านค้า เช่น การใช้เทคโนโลยีในแอป “ถุงเงิน” การบริหารต้นทุน และการประยุกต์ใช้ AI เพื่อสร้างรายได้ พร้อมเร่งสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้น เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า คนในระบบภาษีคือรากฐานรายได้ของประเทศ” นายเอกนิติ กล่าว

นายเอกนิติ กล่าวต่อว่า  ขณะนี้เศรษฐกิจไทยกําลัง “ติดกับดัก” หลัก 4 ด้านสําคัญ ที่จําเป็นต้องเร่งแก้ไข ได้แก่ 1 กับดักการลงทุน – หลังวิกฤตปี 2540 ประเทศในภูมิภาค เช่น เกาหลีใต้ เร่งลงทุนจนเติบโตต่อเนื่อง แต่ไทยกลับมีสัดส่วนการลงทุนเพียง 20% ของจีดีพี ทําให้ขาดการเติบโตใหม่ในระยะยาว 2 กับดักแรงงานและประชากร – ปัจจุบันประชากรอายุเกิน 60 ปีมีถึง 20% ของประเทศ ขณะที่แรงงานรุ่นใหม่มีจํานวนน้อย และส่วนใหญ่เรียนในสาขาที่ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ส่งผลให้ภาระรัฐและหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 3 กับดักเทคโนโลยี – โลกกําลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่คนไทยจํานวนมากยังเข้าถึงเทคโนโลยีได้จํากัด ทําให้ขาดขีดความสามารถในการแข่งขัน 4 กับดักหนี้สิน – หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เข้าถึงสินเชื่อได้ยาก กระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม

 “4 เดือนอาจไม่พอที่จะแก้ปัญหาได้ทั้งหมด” แต่ถือเป็น “จุดเริ่มต้นที่ดี” ที่จะวางแนวทางปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากวงจรเดิมและเดินหน้าได้อย่างมั่นคง” นายเอกนิติ กล่าว