กอ.รมน. ประชุมใหญ่ครั้งแรกปี 2569 วาง 4 แผนหลัก: สันติสุขชายแดนใต้–ปรับโครงสร้าง–เสริมกําลัง–เฝ้าระวังภัยรูปแบบใหม่ ย้ําสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดประชาชน

วันที่ 20 ตุลาคม 2568 - พลตรี ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ครั้งที่ 1 ประจําปี 2569 ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารรื่นฤดี กอ.รมน.

ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องสําคัญ 4 ประเด็นหลัก เพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านความมั่นคงและเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความยั่งยืน ได้แก่ 
- อนุมัติแผนปฏิบัติการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2568–2570 ซึ่งเป็นแผนบูรณาการร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งด้านความมั่นคง การพัฒนา และการสื่อสารสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนในพื้นที่
- เห็นชอบแผนปฏิบัติการความมั่นคง รองรับพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การบังคับใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2548 ซึ่งขณะนี้ครอบคลุม 20 อําเภอใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อําเภอในจังหวัดสงขลา เพื่อให้การดําเนินงานสอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีแนวโน้มดีขึ้น
- ปรับโครงสร้าง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จากเดิม 6 ส่วน เหลือ 4 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนอํานวยการ , ส่วนปฏิบัติการด้านการข่าว , ส่วนปฏิบัติการพลเรือน ตํารวจ ทหาร , ส่วนเสริมสร้างความเข้าใจและการพัฒนา
เพื่อให้การบริหารจัดการมีเอกภาพ คล่องตัว และลดความซ้ําซ้อน
- พิจารณาอัตรากําลังและงบประมาณประจําปี 2569 โดยมีหน่วยงานในพื้นที่รวม 106 หน่วย และกําลังพลกว่า 49,000 นาย พลตรี ธรรมนูญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังมีข้อสั่งการสําคัญ 3 ประการ คือ การเฝ้าระวังและประเมินภัยคุกคามทุกรูปแบบ ทั้งภัยยาเสพติด การก่อการร้าย และกลุ่มสแกมเมอร์ , การสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ , การอํานวยการปฏิบัติงานให้เกิดเอกภาพ ลดความซ้ําซ้อน และใช้ศักยภาพทุกหน่วยอย่างมีประสิทธิภาพ  พร้อมทั้งอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางบรรจุกําลังตํารวจจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เข้าร่วมปฏิบัติงานใน กอ.รมน. เพื่อเสริมความพร้อมในทุกระดับ

โฆษก กอ.รมน. ย้ําในตอนท้ายว่า “กอ.รมน. จะขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบายรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง เพื่อรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรให้มั่นคงและยั่งยืนต่อไป”